จ.สุโขทัย 1 ก.พ.-พปชร.มั่นใจเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เชื่อคนเหนือเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ไม่หวั่นพื้นที่เดิมเพื่อไทย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ว่าที่ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ไปยังตำบลหนองหญ้าป้อง จังหวัดสุโขทัย เพื่อพบปะประชาชน พร้อมแนะนำว่าที่ผู้สมัคร เขต 2 นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง โดยนายสมศักดิ์ ขึ้นเวทีปราศรัยว่า จะต่อยอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ครอบคลุม รวมถึงนโยบายของพรรคให้ความสำคัญกับเกษตรกร โดยเฉพาะราคาข้าว นอกจากนี้ ยังสนับสนุนอาชีพเสริมด้วยนโยบายโคบาลประชารัฐ พร้อมเดินหน้านโยบาย สปก. และการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปีไม่มีดอกเบี้ย
นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพลังประชารัฐถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องว่า การโจมตีเป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะคนที่โจมตีจำนวนมากเป็นพรรคที่ไม่มีคะแนนเสียง ชี้ได้ว่าคนที่โจมตีตกใจกับคะแนนที่ไม่มี และจากการลงพื้นที่ภาคเหนือมั่นใจว่าเขตภาคเหนือจะไม่ผิดเพี้ยน ที่พรรคอื่นพูดว่าจะได้ส.ส.ภาคเหนือ 40-50 คนเป็นการพูดเท็จ เพราะพรรคพลังประชารัฐจะได้ส.ส.ภาคเหนือจำนวนมาก จากผลงานที่ทำมาตั้งแต่ต้น และยิ่งนำเสนอนโยบายที่ชัดเจนทั้งหมดในวันพรุ่งนี้( 2 ก.พ.) แล้ว เชื่อว่าคะแนนนิยมจะดีขึ้น รวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาน่าจะรีบตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเร็วขึ้น
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้สมัครที่ไม่คิดว่าจะเข้ามาชิงคะแนนได้ แต่วันนี้กลับสามารถชิงพื้นที่ได้ จากการทำงานตามยุทธศาสตร์ภาคเหนือ จากเดิมโพลที่สำรวจภาคเหนือจะได้ส.ส.ประมาณ 30 คน แต่มั่นใจว่าดีกว่าเดิม และเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน ส่วนหลังจากพรรคมีมติเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรคนั้น ยืนยันว่าประชาชนสนับสนุนเต็มที่ เพราะจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เวทีภาคเหนือตอนล่าง ประชาชนทุกคนสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ขณะที่ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มาเกือบ 6 เดือน พบประชาชน 17 จังหวัด ทำให้มีข้อมูลนำมาแก้ไขปรับยุทธศาสตร์การหาเสียง ทำให้กระแสตอบรับพรรคพลังประชารัฐดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเดิมภาคเหนือเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย แต่จากการเดินทางไปปราศรัยหลายจังหวัด ได้เห็นกระแสที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ส่วนที่เคยอยู่พรรคเพื่อไทยมีผลกระทบต่อการหาเสียงหรือไม่นั้น ยืนยันว่ากระแสตอนแรกถูกโจมตีในขณะลงพื้นที่ แต่ส่วนตัวไม่เคยเป็นหนี้บุญคุณพรรคใด ซึ่งมีแต่หลายพรรคที่เป็นหนี้บุญคุณตน เพราะไม่เคยไปรับตำแหน่งใคร ดังนั้นคำว่าหักหลังคงมาใช้กับตนไม่ได้
ร.อ.ธรรมมนัส กล่าวว่า ประชาชนภาคเหนือ ไม่ต้องการเห็นคนไทยทะเลาะกัน ชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนเรียกพล.อ.ประยุทธ์ว่า “พ่อตู่” เพราะทำให้เห็นว่านโยบายหลายเรื่องจับต้องได้ และได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งสะท้อนว่ากระแสตอบรับพรรคพลังประชารัฐเป็นไปในทิศทางบวก นอกจากนี้ มั่นใจว่าภาคเหนือตอนบนจาก 31 เขต พรรคพลังประชารัฐ มีโอกาส 18-20 เขต เพราะประชาชนต้องการเปลี่ยนและเรียกร้องให้พรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล รวมถึงประชาชนต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งถ้าพล.อ.ประยุทธ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีจะทำให้มีความมั่นคงของรัฐ และก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยเชื่อว่าคนเหนือเลือกพล.อ.ประยุทธ์.-สำนักข่าวไทย
