ปชป.มีมติเสนอชื่อ “อภิสิทธิ์” นั่งบัญชีรายชื่อนายกฯ เพียงคนเดียว

โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ 1 ก.พ.-พรรคประชาธิปัตย์มีมติเอกฉันท์เสนอชื่อ “อภิสิทธิ์” เป็นบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคเพียงคนเดียว เผย 5 เหตุผล เตรียมปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ย้ำเรื่องกติกาการเลือกตั้ง พร้อมตั้งโต๊ะฝ่ายกฎหมายเพื่อให้คำปรึกษา


นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีฉันทานุมัติเป็นเอกฉันท์เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพียงคนเดียว พร้อมให้เหตุผล 5 ข้อว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแล้ว 72 ปีที่พรรคจะต้องส่งหัวหน้าพรรคดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี , นายอภิสิทธิ์ ทุ่มเทตั้งใจทำงานให้กับประชาชนในประเทศชาติมากกว่า 20 ปี , นายอภิสิทธิ์ ยึดมั่นในระบอบการปกครองประชาธิปไตยในรัฐสภา , ตลอดระยะเวลาในการทำงานในหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและนายกรัฐมนตรีทำงานด้วยความซื่อสัตย์ในการบริหารประเทศและทำงานทางการเมือง มีความรู้ความสามารถและเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดังนั้นในปีนี้ที่ประเทศไทยจะดำรงตำแหน่งสำคัญในระดับโลก (ประธานอาเซียน) เมื่อได้นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็จะสามารถทำหน้าที่ได้ทันที

นายธนา กล่าวว่า ส่วนการประชุมเพื่อปฐมนิเทศนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จะเน้นย้ำกกติกาการเลือกตั้ง เนื่องจากมีหลายเรื่องที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งไม่เฉพาะว่าที่ผู้สมัครใหม่เท่านั้นที่ประสบปัญหา แต่ผู้ที่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วก็ยังติดขัดความเข้าใจในหลายเรื่อง และการประชุมในวันนี้ (1 ก.พ.) จึงมีการตั้งโต๊ะฝ่ายกฎหมายเพื่อให้คำปรึกษา


เมื่อถามว่า กังวลเรื่องใดหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายธนา กล่าวว่า พร้อมเคารพกติกา ไม่ว่าจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ทั้งนี้เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแนวทางหลักในการก้าวพ้นวิกฤติของประเทศ เพราะเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ไม่สร้างความขัดแย้ง

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียงจำนวนเท่าใดจากการเลือกตั้งครั้งนี้ นายธนา กล่าวว่า พรรคเคารพสิทธิ์ของประชาชนทุกคน ซึ่งจากการลงพื้นที่ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พบว่ามีเสียงตอบรับที่ต้องการให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และสอดคล้องกับผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ที่ระบุว่า ประชาชนอยากให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นจึงไม่ขอประเมินว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้กี่เสียง แต่อยากฝากให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่ เพื่อนำนโยบายที่จะเกิดประโยชน์กับประชาชนไปสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชน โดยหัวหน้าพรรคได้ย้ำเน้นกับว่าที่ผู้สมัครว่าจะต้องปฏิบัติตามกฏหมาย จะต้องไม่ทำผิดกฏหมายการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป

“ปัญหาหลักของประเทศวันนี้ คือ ปัญหาเศรษฐกิจ จากการที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หรือว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่ไหน ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขณะนี้ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน จึงชูนโยบายแก้จน เป็นเรื่องแรก และจะมีการสร้างคน สร้างชาติ เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนเป็นนโยบายที่ใช้ควบคู่กัน โดยยืนยันว่านโยบายของพรรคประชาธิปัตย์เป็นรูปธรรม ทำได้จริง และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และเป็นนโยบายที่ไม่สร้างภาระให้กับประเทศ” นายธนา กล่าว


นายธนา กล่าวด้วยว่า ส่วนรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งระบบเและปาร์ตี้ลิสต์นั้นจะแล้วเสร็จภายในวันนี้ ขณะที่การบริหารพิจารณา ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน จะพิจารณาตามลำดับตัวอักษร ส่วนการจัดวางอันดับ จะพิจารณาโดยหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรค ซึ่งคาดว่าจะได้อันดับทั้งหมดภายในวันที่จะไปยื่นกับ กกต.ในช่วงวันที่ 5-8 กุมภาพันธ์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศก่อนการปฐมนิเทศว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคกับอดีต ส.ส.พรรค ซึ่งภายในงานได้จัดพื้นที่แสดงนิทรรศการแนวทางทำงานของพรรคในการแก้ไขปัญหาความยากจน ปัญหาความเหลื่อมล้ำ การปราบปรามยาเสพติด รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิต นอกจากนี้ภายในงานยังมีโต๊ะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้งให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.

โดยในช่วงเช้า ระหว่างการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ได้มีการหารือถึงนโยบายของพรรค จำนวน 103  หน้า เพื่อขออนุมัติในการนำขึ้นเว็บไซต์ โดยได้ให้กรรมการบริหารพรรคที่ดูแลในแต่ละภาคเสนอว่าจะมีการเพิ่มเติมนโยบายลงไปอีกหรือไม่ ซึ่งแต่ละนโยบายจะต้องเป็นไปตามกรอบนโยบายของพรรค คาดว่าในสัปดาห์หน้า จะสามารถลงเว็บไซต์ได้ เพื่อให้เป็นแนวทางให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นำไปหาเสียงถึงนโยบายพรรค 

จากนั้น กรรมการบริหารพรรคและอดีต ส.ส.พรรคได้ทำความเข้าใจกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 500 คนที่เดินทางมาร่วมปฐมนิเทศ พร้อมเปิดเพลงสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ของพรรคด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]