ทำเนียบฯ 31 ม.ค.- นายกฯ ระบุ รัฐบาลให้ความสำคัญต่อปัญหาฝุ่นละออง เปิดเผยตัวเลข เพื่อให้เตรียมตัว แต่กลายเป็นตื่นตระหนก วอน อย่าโยงเป็นประเด็นการเมือง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจง กรณีสั่งให้มีการปิดโรงเรียน เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) จากปัญหาฝุ่นละออง ว่า เนื่องจากเด็กมีภูมิต้านทานต่ำกว่าผู้ใหญ่ แต่ต้องชดเชยชั่วโมงเรียนให้ครบตามกำหนด ดังนั้น การที่รัฐบาลจะสั่งการอะไร จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนอย่างรอบด้าน เมื่อถึงเวลาต้องทำ ก็ต้องดำเนินการ และว่า จากมาตรการปิดโรงเรียน ยังต้องประเมินผลว่า สามารถลดปัญหาได้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการดำเนินการกับรถที่มีควันดำ ก็ใช้กฎหมายปกติ มีการติดสติ๊กเกอร์ระบุห้ามวิ่งแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องพ่นสีให้รถยนต์เสียหาย นอกจากนี้ ยังรับข้อร้องเรียนจากสื่อสังคมออนไลน์ และตรวจสอบในหลายกรณีแล้ว และว่า ปริมาณฝุ่น pm 2.5 จะลอยอยู่ต่ำ จึงน่าจะมีสาเหตุจากการจราจรเป็นสำคัญ ดังนั้น จะต้องใช้รถให้น้อยลง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบรายโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่มีค่า PM 2.5 สูงไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด เพราะส่วนใหญ่เป็นฝุ่นละอองขนาด PM 10 ประชาชนต้องทำความเข้าใจ และแยกแยะด้วยว่า ฝุ่นควันที่พบ เป็นฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ไม่ใช่ PM 2.5 ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามที่มีความกังวลในขณะนี้
“พร้อมเปิดรับข้อเสนอภาคประชาชน ว่า ต้องการให้รัฐบาลดำเนินมาตรการอย่างไร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน จะประชุมรวบรวมมาตรการตามลำดับ หากถึงระดับที่ 4 อาจต้องประกาศยกระดับเป็นภัยภิบัติ และ จะส่งผลกระทบหลายด้านรวมถึง การท่องเที่ยว ดังนั้น ต้องสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง
“สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่ต้องคำถึงรอบด้าน รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ จึงเปิดเผยตัวเลขฝุ่นละออง เพื่อให้ประชาชนเตรียมตัว แต่กลายเป็นตื่นตระหนก ผมไม่ตำหนิหน่วยงานใด เพราะเชื่อว่าทุกคนได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ขออย่าเชื่อมโยงให้เป็นประเด็นการเมือง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนที่ มีงานวิจัยพบว่า การสูบบุหรี่ 1 มวน มีความอันตรายเท่ากับการรับฝุ่นพิษ PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย 22 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่สามารถไปห้ามได้ แต่มีข้อห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธาณะอยู่แล้ว ..- สำนักข่าวไทย