กรมฝนหลวงเดินหน้าบินทำฝนสลายฝุ่น

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – นายกฯ ห่วงปัญหาฝุ่นละอองส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน สั่งกรมฝนหลวงฯ ขึ้นบินต่อสลายฝุ่นเมืองหลวง

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากสถานการณ์มลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนนั้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยประชาชนที่ประสบปัญหานี้เป็นอย่างยิ่ง จึงสั่งการกรมฝนหลวงฯ ระดมสรรพกำลังเร่งปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่องทันทีหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย พร้อมกันนี้ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกคนในการทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤติฝุ่นละอองโดยเร็ว

นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการติดตามสภาพอากาศของสถานีเรดาร์ฝนหลวงสัตหีบเมื่อช่วงเวลา 08.00 น. พบว่าวันนี้มีค่าเฉลี่ยความชื้นสัมพัทธ์ที่ระดับเกิดเมฆค่อนข้างดีอยู่ที่ร้อยละ 80 ค่าความชื้นสัมพัทธ์ที่ระดับการพัฒนาตัวของเมฆอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเช่นกันอยู่ที่ร้อยละ 73 แม้ว่าค่าดัชนีการยกตัวของอากาศจะยังเป็นค่าบวกอยู่ที่ 0.3 ซึ่งไม่เอื้อต่อการเกิดเมฆมากนัก แต่คาดการณ์ว่าความร้อนจากแสงอาทิตย์จะช่วยให้ค่าการยกตัวของเมฆเริ่มดีขึ้นได้ในช่วงสาย ทำให้มีสภาพที่เหมาะต่อการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงมากขึ้น ดังนั้น วันนี้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดระยองจึงได้ตัดสินใจขึ้นปฏิบัติการในเวลา 11.00 น. สำหรับขั้นตอนที่ 1 คือ สร้างแกนให้เมฆก่อตัว โดยได้วางแนวปฏิบัติการทางทิศใต้ของ อ.บางปะกง ไปถึงบริเวณ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หวังผลให้เมฆก่อตัวและลอยเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งตะวันออกและปริมณฑลบริเวณจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งโอกาสที่จะมีฝนตกในพื้นที่เป้าหมายประมาณร้อยละ 50

ส่วนที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วจังหวัดนครสวรรค์นั้น จากการติดตามสภาพอากาศของสถานีเรดาร์ฝนหลวงตาคลี พบว่าวันนี้มีค่าเฉลี่ยความชื้นสัมพัทธ์ยังค่อนข้างน้อยมาก รวมทั้งค่าดัชนีการยกตัวของอากาศที่ไม่เอื้อต่อการเกิดเมฆ ซึ่งไม่เข้าเกณฑ์ที่จะสามารถปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อสลายฝุ่นละอองในอากาศบริเวณจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และนครสวรรค์ได้ จึงตัดสินใจไม่ขึ้นปฏิบัติการ แต่จะยังคงติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง

นายสุรสีห์ กล่าวว่า ได้รายงานไปยังนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ได้นำเครื่องบิน Super King Air จากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำลังใช้ในงานวิจัยสภาพอากาศใต้ฐานเมฆที่มีอิทธิพลต่อการเกิดฝนอยู่ในขณะนี้มาช่วยตรวจวัดสภาพอากาศบริเวณจังหวัดราชบุรี นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง โดยเครื่องบิน Super King Air นั้นเป็นเครื่องบินที่มีเพดานบินสูงสามารถบินขึ้นปฏิบัติการในชั้นเมฆที่สูงเกินกว่ 18,000 ฟุต ที่อุณหภูมิของเมฆต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส หากปฏิบัติการได้ผลจะทำให้มีปริมาณฝนมากกว่าการปฏิบัติการในเมฆชั้นต่ำหรือการทำฝนหลวงเมฆอุ่น โดยนายกฤษฎาสั่งการว่าหากสภาพอากาศเอื้อต่อการขึ้นบินทำฝนจะนำเครื่องขึ้นปฏิบัติการฝนเมฆเย็นตามตำราฝนหลวงพระราชทานทันที พร้อมกันนี้กรมฝนหลวงฯ ยังได้รับความอนุเคราะห์จากสนามบินราชบุรีของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม วิทยาเขตราชบุรี ที่ให้การสนับสนุนพื้นที่จอดเครื่องสำหรับลำเลียงสารฝนหลวงขึ้นอากาศยาน เพื่อให้การทำฝนบริเวณพื้นที่ดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียงสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและทันท่วงที รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครฝนหลวง จ.ราชบุรี และพื้นที่ใกล้เคียงมาช่วยเป็นจิตอาสาลำเลียงสารฝนหลวงขึ้นอากาศยาน เพื่อสนับสนุนภารกิจปฏิบัติการฝนหลวงสลายวิกฤติค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM2.5 ที่เกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย