หนองคาย 28 ม.ค.- หน.สถานีเรือหนองคายเผยแม้ผลการซักซ้อมขบวนเรือลอยอังคาร “หลวงพ่อคูณ” ลำน้ำโขงเป็นที่พอใจ แต่ได้ปรับรูปแบบอีกเล็กน้อยเพื่อความเหมาะสมยิ่งขึ้น รวมถึงระบบวิทยุสื่อสารระหว่างเรือและการใช้ความเร็วของเรือ
นาวาโทสุดทวิช เบญจจินดา หัวหน้าสถานีเรือหนองคาย เปิดเผยว่า หลังจากได้ซักซ้อมเสมือนจริงของขบวนเรือในแม่น้ำโขงเมื่อวานนี้ (28 ม.ค.) เพื่อเตรียมพร้อมในพิธีลอยอังคารพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ในวันที่ 30 ม.ค. แม้ผลการซักซ้อมเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก แต่เพื่อความเหมาะสมยิ่งขึ้นจึงพิจารณาปรับรูปแบบขบวนเรือใหม่ เดิมให้เรือของตำรวจน้ำ 1 ลำ และเรือตรวจคนเข้าเมือง 1 ลำ ลอยลำอยู่ด้านหลังองค์พระธาตุกลางน้ำ แต่ได้พิจารณาแล้วว่าให้เรือของตำรวจน้ำเพิ่มเป็น 3 ลำ และเรือตรวจคนเข้าเมือง 1 ลำ เคลื่อนมาอยู่ด้านหน้าองค์พระธาตุ แต่ยังอยู่แนวหลังของเรือ ล.169 ซึ่งเป็นเรือหลัก ส่วนด้านหลังองค์พระธาตุจะมีเฉพาะเรือเอกชน 10 ลำ ลอยลำถัดกันไปเพื่อความสวยงาม รวมถึงการจัดระบบคลื่นวิทยุสื่อสารของเรือทุกลำให้คลื่นตรงกัน เพื่อง่ายต่อการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ประจำเรือ
นาวาโทสุดทวิช กล่าวด้วยว่า การซ้อมเสมือนจริงพบว่าเมื่อเคลื่อนขบวนเรือจากท่าเทียบเรือ นรข. แล้วลอยทวนน้ำขึ้นไปยังสะพานมิตรภาพไทย–ลาว ด้วยความเร็ว 5 น็อตต่อชั่วโมง จะใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีการลองเพิ่มความเร็วของเรือ ปรากฏว่าเกิดคลื่นน้ำหลายคลื่นอาจไม่ปลอดภัยกับเรือลำอื่น ๆ จึงไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้ ดังนั้น ความเร็วของเรือ ล.169 จะยังคงใช้ความเร็วอยู่ที่ 5 น็อตต่อชั่วโมงตามเดิม พิธีการทั้งหมดใช้เวลา 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ถือว่าเป็นการซักซ้อมที่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ.-สำนักข่าวไทย