เพื่อไทย 24 ม.ค. –ชัชชาติระบุหลังเดินสายพบประชาชน ส่วนใหญ่หนุนพรรคมากกว่าบุคคล ยืนยันช่วยพรรคเต็มที่ ไม่ห่วงคดีค้างป.ป.ช. ส่วนตำแหน่วงนายกฯ ยังไกลตัว วันเลือกตั้งชัด เศรษฐกิจดีดตัว
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีหลังมีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง ว่า ไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะชูตนเองขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ การมาที่ทำการพรรควันนี้(24 ม.ค.) เพื่อมาขอรายละเอียดว่าหลังจากที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งประกาศแล้ว กฎหมายที่เกี่ยวข้องมีค่อนข้างมาก จึงต้องมาปรึกษาว่าควรวางตัวอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง ซึ่งหลังจากมีประกาศวันเลือกตั้งแล้ว ตนเองได้หยุดโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งทั้งหมดแล้ว เนื่องจากทางพรรคได้แจ้งให้กับสมาชิกทุกคนปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
“ส่วนบทบาทการทำงานต่อจากนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รับมอบหมายงานส่วนใดเพิ่มเติม แต่เบื้องต้นยังรับผิดชอบงานด้านโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ ส่วนเสียงเชียร์ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมมองว่ายังเป็นเรื่องไกลตัว วันนี้จะมาสรุปนโยบายการหาเสียง การลงพื้นที่ต่อจากนี้จะแยกทีมกับแกนนำคนอื่น ๆ พบปะประชาชน เพราะกรอบเวลาที่มีอยู่ค่อนข้างจำกัด การกระจายกันลงพื้นที่จะทำให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น และหัวใจของพรรคเพื่อไทยคือการเดินไปเป็นทีม ดังนั้น การทำงานทุกอย่างจะต้องเป็นทีมเวิร์ค จุดแข็งของพรรคเพื่อไทยคือมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายด้าน และคิดว่าหลังจากประกาศวันเลือกตั้งแล้ว ทำให้ความเชื่อมั่นในภาคเศรษฐกิจฟื้นตัว เห็นได้จากเมื่อวานนี้(23 ม.ค.) ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นหลายจุด” นายชัชชาติ กล่าว
นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ต่างจังหวัดพบว่าคนต่างจังหวัดยังเชียร์พรรคมากกว่าตัวบุคคล ดังนั้นการจะบอกว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรียังเป็นเรื่องที่ไกลตัว ปัจจัยความสำเร็จไม่ใช่อยู่ที่ตัวบุคคล และหัวใจของประชาธิปไตยไม่ใช่การต่อสู้กันถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย แต่คือความร่วมมือ ซึ่งเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งแล้วพรรคการเมืองแต่ละพรรคควรจะประกาศให้ชัดเจนว่าอยู่ฝ่ายใด ประชาชนจะได้ไม่สับสนและเข้าใจมากขึ้นว่าจะต้องสนับสนุนฝ่ายใด
“ผมไม่กังวลกับคดีที่ยังคงค้างอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และจะชี้แจงให้ดีที่สุด เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างดำเนินการตามนโยบาย ส่วนที่ทั้ง4 รัฐมนตรียังไม่ลาออก เชื่อว่าเป็นเหตุผลของแต่ละคน ผมจะไปตัดสินหรือคิดแทนใครไม่ได้” นายชัชชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
