ภูเก็ต 24 ม.ค. – จากกรณีตำรวจ สภ.วิชิต ได้รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หรือถนนเลียบคลองบางใหญ่ ม.1 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 03.40 น. วันที่ 19 ม.ค.62 พบผู้เสียชีวิต คือ นายธีรศักดิ์ แซ่อ๋อง อายุ 29 ปี ชาว ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นบุตรชายของนักการเมืองท้องถิ่น สภาพศพสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีเทา นอนหงายอยู่ข้างรถ จยย.ยามาฮ่า สีน้ำเงินขาว ป้ายทะเบียน 1 กญ ภูเก็ต 1514 ซึ่งยังเปิดสวิตช์กุญแจค้างไว้ ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกกระสุนไม่ทราบขนาดเจาะที่ขมับด้านซ้าย 1 นัด เลือดไหลนองพื้น ที่เอวมีซองกระสุนปืนลูกซองแบบเข็มขัดรัดเอว 1 เส้น พร้อมกระสุน 7 นัด
จากการสอบสวนทราบว่านายธีรศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์มาจากฝั่งสำนักงานขนส่งจังหวัด หลังจากนั้นมีรถเก๋งสีดำไม่ทราบป้ายทะเบียนขับตามมา คนในรถชักอาวุธปืนจ่อยิงนายธีรศักดิ์ 3 นัด กระสุนเจาะขมับ 1 นัด จนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ
ต่อมาตำรวจ สภ.วิชิต ทราบว่าผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิต คือ นายจักรกฤษ แสงสะอาด หรือดิว เป็นชาว จ.ฉะเชิงเทรา และนายจักรกฤษได้มามอบตัวสู้คดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต ก่อนที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” อย่างไรก็ตาม ในชั้นสอบสวนนายจักรกฤษ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และประกันตัวไป ขณะนี้ สภ.วิชิต ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ความคืบหน้าเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (23 ม.ค.62) ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดกะทู้ หมู่ที่ 4 ต.กะทู้ อ.กะทู้ สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลนายธีรศักดิ์ แซ่อ๋อง ซึ่งเป็นบุตรชายของนายเจริญ แซ่อ๋อง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลรัษฎาเขต 1 อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีญาติๆ เพื่อนสนิทของนายธีรศักดิ์ และกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นมาร่วมในพิธีจำนวนมาก ทันทีที่เสร็จพิธีทางสงฆ์ ได้เคลื่อนศพออกจากศาลาไปยังเมรุหลังวัด ขณะที่เพื่อนๆ ของผู้ตายได้นำรถจักรยานยนต์ 3 คัน มาเบิ้ลเครื่องเสียงดังสนั่นเพื่อไว้อาลัยให้เพื่อนรัก
แต่ระหว่างนำศพเข้าเมรุและเตรียมการเผา ปรากฏว่าพี่สาวแท้ๆ ของผู้ตาย เกิดอาการตั่วสั่นหวีดร้องตะโกนว่า ตัวเองเป็นวิญญาณของนายธีรศักดิ์ ไม่ต้องการให้เผาเด็ดขาด ถึงแม้นายเจริญ ผู้เป็นพ่อจะพยายามเข้าไปขอแต่ก็ไม่เป็นผล จึงสอบถามความเห็นญาติๆ ก่อนตัดสินใจยกเลิกการเผาศพ และจะเก็บศพไว้ที่วัดก่อนไม่มีกำหนด ทำให้พี่สาวมีอาการสงบลง จึงพาตัวไปพบพระสงฆ์เพื่อรดน้ำมนต์
นายเจริญ เชื่อว่าบุตรชายไม่ต้องการให้เผาศพ เนื่องจากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงต้องเก็บศพไว้ต่อไม่มีกำหนด ในส่วนของคดียังรู้สึกคาใจทำไมเจ้าหน้าที่จึงให้ผู้ต้องหาประกันตัวออกไป และไม่ชี้แจงความคืบหน้าคดี และไม่ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นใคร ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าบุตรชายมีอาวุธปืนและเปิดฉากยิงก่อนนั้น จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบอาวุธปืนของลูกชาย มันหายไปไหน หลังจากนี้ตนเองจะดำเนินการทางกฎหมายต่อไปเพื่อให้เกิดความยุติธรรม ตนเองมีลูกชายคนเดียว เลวบ้างดีบ้างแต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นผู้ก่อการร้าย อย่างไรก็ตามฝากถึงผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมด้วย. – สำนักข่าวไทย