กรุงเทพฯ 23 ม.ค.-กฟน.-ก.พลังงาน-ก.อุตสาหกรรม งัดมาตรการป้องกันแก้ไขลดฝุ่นมลพิษ ส่งเสริมทั้งรถอีวี ,น้ำมันบี 20 ตรวจสอบโรงงานคุมเข้ม
นายกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)กล่าวว่า กฟน. มีความตระหนักและห่วงใยต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน และสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ปกคลุมทั่วเขตจำหน่ายของ กฟน. และพื้นที่อื่น ๆ ในต่างจังหวัด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ โดยในส่วน ของ กฟน.ได้กำชับผู้รับเหมาโครงการต่างๆห็ดูแลให้เกิดปัยหาฝุ่น รวมการปล่อยไอเสียของรถยนต์บรรทุกให้น้อยที่สุด เพราะปัจจัยสำคัญหนึ่งที่เกิดฝุ่น คือการปล่อยไอเสียจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ 
นอกจากนี้การใช้รถไฟฟ้าหรืออีวี จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหามลพิษ ซึ่ง กฟน. มีการจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 11 สถานี ตลอดจนให้การร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนอื่น ๆ ในการขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น บริษัท กรุงเทพธนาคม ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนผู้ที่กำลังตัดสินใจใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “MEA EV” รองรับการใช้งานทั้งระบบ IOS และ Android สำหรับการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าทั้งของ กฟน. และของหน่วยงานอื่น ๆ ตลอดจนการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์
“ปัจจุบันประชาชนที่ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า สามารถใช้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดยจองผ่านแอปพลิเคชัน MEA EV ที่การไฟฟ้านครหลวงเขตทุกเขตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับนโยบายการสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ดังกล่าว ถือเป็นนโยบายที่หลาย ๆ ประเทศให้ความสำคัญ และสามารถแก้ปัญหามลภาวะได้อย่างเป็นรูปธรรม”นายกีรพัฒน์กล่าว
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้ประชุมค่ายรถบรรทุกขนาดใหญ่ และผู้ค้าน้ำมัน หารือเตรียมความพร้อมขานรับนโยบายนายกรัฐมนตรี ในการขยายการใช้น้ำมัน B20 ในรถขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยทั้งเกษตรกรสวนปาล์ม ลดค่าใช้จ่ายภาคขนส่ง และยังสามารถช่วยลดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5) โดยได้ข้อสรุปคือ ค่ายรถยนต์เตรียมเสนอรุ่นรถในเครือตนเองที่สามารถใช้ B20 ได้ในเร็วๆนี้ ในขณะที่ สถานีบริการ ปตท. ,บางจาก, ซัสโก้ ก็พร้อม จะเปิดขายผ่านสถานีบริการในเร็วๆนี้กว่า 10 แห่ง
นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดยคณะกรรมการบริหารการป้องกันและแก้ไขปัญหา (ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน : PM 2.5) เดินหน้าดำเนินการตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา ตรวจสอบแล้วรวม 470 โรงงาน ไม่พบโรงงานที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน และจากการกำกับ ดูแล ตรวจสอบผ่านระบบตรวจวัดมลพิษทางอากาศจากปล่องระบายอย่างต่อเนื่องอัตโนมัติ (Continuous Emission Monitoring System, CEMS) ตลอด 24 ชั่วโมงของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในกลุ่มโรงงานขนาดใหญ่ จำนวน 59 โรงงาน 142 ปล่อง พบว่า มีปริมาณฝุ่นค่าเฉลี่ยที่ 0.8 – 50 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งไม่เกินค่ามาตรฐานฝุ่นจากปล่องระบายของโรงงานทั่วไป คือ 240 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มาตรฐานขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดของเชื้อเพลิง)
“ขณะนี้ยังตรวจและเฝ้าระวังโรงงานเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่นและมลพิษทางอากาศทั่วประเทศ 7,700 โรงงาน สุ่มตรวจวัดมลพิษทางอากาศในพื้นที่ที่เสี่ยง 12 จังหวัด (กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี และราชบุรี) อย่างต่อเนื่อง คาดว่าดำเนินการแล้วเสร็จภายก.พ. และ ขอความร่วมมือให้โรงงานในพื้นที่เสี่ยงระมัดระวังในการประกอบกิจการไม่ให้เกิดมลพิษ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับประชาชนและชุมชนในพื้นที่ได้อย่างสมดุลและยั่งยืนต่อไป”นายพสุ กล่าว-สำนักข่าวไทย
