ปอท.เตือนอย่าส่งต่อเว็ปไซด์ข่าวปลอมหากินกับวิกฤติสร้างความตื่นตระหนกแก่ ปชช.

กรุงเทพฯ 18 ม.ค.- ปอท.เฝ้าระวังเว็บไซด์ผลิตข่าวปลอมหากินกับวิกฤติสร้างความตื่นตระหนก แนะนำประชาชนทราบแล้วอย่าแชร์ข่าวปลอมต่อจะได้ไม่ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ที่มีโทษหนักจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท


พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.3 ในฐานะ โฆษก บก.ปอท.กล่าวถึงวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพพี่น้องประชาชนในเวลานี้ว่า ทาง บก.ปอท.มีความเป็นห่วงกังวลในเรื่องการสร้างและปล่อยข่าวปลอมที่เรียกว่าเฟคนิวส์(Fake news) มาก ทาง บก.ปอท.เรามีศูนย์เฝ้าระวังโซเชียล เพื่อคอยโมนิเตอร์ตลอด 24 ช.ม.  อย่างกรณีที่เป็นข่าวไปเมื่อ 1-2 วันนี้  ตรวจสอบพบว่ามีเว็บไซด์ชื่อ gmmwork.com เป็นเว็บไซด์ในต่างประเทศเป็นผู้ผลิตข่าวปลอมเกี่ยวกับคนที่สูดฝุ่นละออง pm2.5 เข้าไปแล้วเป็นผื่น เป็นแผลพุพอง พี่น้องประชาชนที่ได้รับทราบข้อมูลจากเว็บไซด์ดังกล่าวเกิดความตื่นตระหนก ก่อนเอาไปแชร์หรือส่งต่อให้คนอื่น สร้างความตื่นตระหนกในหมู่ประชาชน

บก.ปอท.ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทราบ การดู การเสพข่าวในลักษณะต่างๆ ในโลกโซเชียล ข่าวที่สร้างความตื่นตระหนก ไม่ว่าจะเป็นข่าวเรื่องฝุ่นละออง pm2.5 ก็ตาม  เรายังพบว่าที่ผ่านมาเว็บไซด์นี้ยังเคยมีการปล่อยข่าวปลอมในเรื่องภัยธรรมชาติ ข่าวที่ระบุว่าเขื่อนจะแตก ข่าวแผ่นดินไหว ข่าวเรื่องมีรังสีคลื่นความร้อนแพร่กระจาย เป็นต้น รวมทั้งข่าวดาราสาวรายหนึ่งโดนตำรวจสายตรวจข่มขืนก็เคยมี จนผู้เสียหายต้องมาแจ้งความ ปอท.ดำเนินคดีเว็บไซด์ดังกล่าว


ขอแนะนำว่าควรตรวจสอบข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวัง มีการตรวจสอบกับสำนักข่าวที่มีมาตรฐาน หรือเว็บไซด์ของทางรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูก่อนว่าเรื่องหรือข่าวเหล่านั้นเป็นความจริงหรือน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด ก่อนจะส่งต่อให้คนอื่น ข่าวที่เราอ่านแล้วเกิดความไม่สบายใจก็ต้องตรวจสอบให้ดีก่อน

การกระทำในลักษณะสร้างหรือผลิตข่าวปลอม fake news ในลักษณะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(2) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

ส่วนผู้ใดทราบว่าข่าวที่เราส่งหรือแชร์ต่อเป็นข่าวปลอม ข้อมูลที่เป็นเท็จ เช่น ข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขออกมายืนยันแล้วว่า “อย่าเชื่อคนตายจากฝุ่นพิษ pm 2.5 แล้ว 1 ราย” แต่ก็ยังเอาไปแชร์หรือส่งต่อให้คนอื่น แบบนี้จะเข้าค่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม. 14(5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตาม (1) (2) (3) หรือ (4) ซึ่งมีความผิดอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท


โฆษก บก.ปอท.กล่าวต่อ เว็บไซด์ที่ผลิตข่าวปลอมเหล่านี้นิยมใช้รูปภาพที่ดึงดูดความสนใจ รวมทั้งข้อความ แคปชั่นที่คนทั่วไปเห็นแล้วกระตุ้นความอยากรู้ดึงดูดให้เข้าไปคลิ๊ก ไปกดดูจะทำให้เจ้าของเว็บไซด์ได้ประโยชน์ ในรูปตัวเงิน ค่าตอบแทนจากยอดคลิ๊กเว็บไซด์ดังกล่าว เขาจึงต้องหาทางสร้างข่าวปลอมที่มีเนื้อหารุนแรง ข่าวที่คนเห็นแล้วอยากรู้ต่อจะได้เข้าไปกดดูตามดูข่าวนั้น เราจึงต้องระมัดระวัง มีการนำภาพคนเจ็บคนตาย ดารานักร้องคนมีชื่อเสียงประสบเหตุ เป็นต้นมาเขียนมาสร้างข่าวปลอม รวมทั้งภาพภัยทางธรรมชาติ มากระตุ้นให้คนคลิ๊กไปดู

เว็บไซด์ข่าวปลอมเหล่านี้ทาง พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. ได้กำชับให้ตรวจสอบดำเนินการอย่างเข้มข้น ปีก่อนเราได้ร่วมกับ ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.)ดำเนินการจับกุมแอดมินเว็บไซด์ที่อยู่ต่างประเทศมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทย พร้อมกับประสานให้กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการปิดกั้นเว็บไซด์ข่าวปลอม เพื่อป้องกันพี่น้องประชาชนตกเป็นเหยื่ออีกทางหนึ่งด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย