กรุงเทพฯ 18 ม.ค. – เกษตรฯ ปลื้ม ราคาไข่ไก่ปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังขอความร่วมมือเอกชนลดแม่พันธุ์-ผลักดันส่งออก ตามแผน “PS Support” พร้อมประกาศรับซื้อหน้าฟาร์มฟองละ 2.60 บาท มีผลวันนี้
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ว่าสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ประกาศปรับราคารับซื้อไข่คละหน้าฟาร์มเป็นฟองละ 2.60 บาท จากฟองละ 2.50 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มกราคม 2562 เป็นต้นไป และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ได้ให้นโยบายกรมปศุสัตว์แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำอย่างยั่งยืน เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาไข่ไก่เป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่มีปริมาณผลผลิตจำนวนมากเกินความต้องการของตลาดในประเทศ ทำให้ราคาตกต่ำ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ขาดทุนสะสม ซึ่งกรมปศุสัตว์ได้ทำโครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ปี 2561 โดยสำรวจข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำอย่างรอบด้าน ทั้งด้านปริมาณการผลิต โครงสร้างราคา รวมถึงปริมาณความต้องการบริโภคของตลาดในประเทศ การแปรรูปและการส่งออก แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์วางแผนร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด จนนำมาสู่การขับเคลื่อนในภาคปฏิบัติภายใต้แผนปฏิบัติการ “PS Support” มาตรการล่าสุดเพื่อแก้ปัญหาระยะสั้น คือ การรวบรวมไข่ไก่สดส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ 65 ล้านฟอง ควบคู่ไปกับการลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง 1 ล้านตัว และมาตรการแก้ปัญหาระยะยาวเพื่อความยั่งยืนด้วยการลดแม่พันธุ์ไก่ไข่ (PS) อายุ 25-60 สัปดาห์ 100,000 ตัว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนผู้นำเข้าไก่ไข่พันธุ์ทั้ง 16 บริษัทอย่างดีเยี่ยม จากการดำเนินการจนเสร็จเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2561 ส่งผลให้ปัจจุบันปริมาณผลผลิตไข่ไก่เริ่มเข้าสู่สภาวะสมดุลกับความต้องการบริโภคของตลาดภายในประเทศ ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจึงเริ่มปรับตัวสูงขึ้น
ทางด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ราคาไข่ไก่มีแนวโน้มปรับขึ้นได้อีกเนื่องจากการส่งออกไข่ไก่ไปจำหน่ายต่างประเทศยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสิงคโปร์เพิ่มนำเข้าไข่ไก่จากไทย ขณะที่ฮ่องกงยังคงเป็นตลาดใหญ่
“การแก้ปัญหาผลผลิตไข่ไก่ล้นตลาด ทำให้ราคาไข่ไก่ตกต่ำตามแผนปฏิบัติการ PS Support กรมปศุสัตว์มั่นใจว่าดำเนินการไปในแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสม ยุติธรรมและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่มีความพึงพอใจ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดอาศัยความมีส่วนร่วมของภาคเอกชนรายใหญ่ที่ให้ความเอื้ออาทรสู่ภาคเกษตรกรรายย่อย เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย