‘นพ.ธีระเกียรติ’ พอใจผลงาน ศธ.4 ปี

ศธ.17ม.ค.-รมว.ศึกษาฯ พอใจภาพรวมผลการดำเนินงานของกระทรวงฯ ในรอบ4 ปี ให้คะแนนเกินครึ่งจนถึงเกือบเต็มในบางโครงการ ระบุหากหลังเลือกตั้งใครมาบริหาร อยากให้สานต่อ พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ด้านปลัดฯ เผยการดำเนินงาน สพฐ.-สกอ.-สอศ.-กศน.-สกศ.ดีขึ้นทั้ง 5 องค์กรหลัก ยึด 6 ยุทธศาสตร์ชาติเดินหน้าต่อ


นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและผู้บริหาร 5 องค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เเถลงผลงานการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในรอบ 4 ปี ว่า  ภาพรวมของการดำเนินงานของกระทรวงส่วนตัวพอใจ  ที่ผ่านมาย้ำมาเสมอว่าปัญหาหลายเรื่องมีมานาน และสะสมการเริ่มต้นมองด้วยแง่ลบและพยายามเปลี่ยนแบบถอนรากถอนโคน ไม่สามารถทำได้กับการปฏิรูปการศึกษา แต่ควรขยับทีละนิดเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีทั้ง 6 ด้าน ไม่ว่ารัฐบาลใดมาดูจะเห็นได้ว่ากำหนดไว้ครอบคลุม ยังลดความเหลื่อมล้ำ การปฏิรูประบบราชการ ซึ่งมองให้ดีจะเห็นได้ว่าหน่วยงานทำครบถ้วนและทุกคนก็ตั้งใจทำงาน 


รมว.ศึกษาฯ กล่าวต่อไปว่า ถ้าจะให้คะแนนผลการทำงานภาพรวมตนให้เกิน 5 คะแนน แต่บางโครงการให้ 8-9 คะแนน เช่น โครงการพัฒนาครูทั้งระบบ หรือคูปองครู , การส่งเสริมการศึกษาเพื่อการมีงานทำ หรือ อีทูอี เป็นต้น อีกเรื่องที่พอใจมากคือ ธรรมาภิบาล ซึ่งตนมองว่ายุคนี้สังคมช่วยเราได้เยอะ เป็นยุคที่การโกงได้รับการสะสาง และป้องปรามมากที่สุดยุคหนึ่ง ทุกอย่างตรงไปตรงมาตนก็พอใจ ซึ่งไม่ใช่ผลงานชิ้นโบว์แดงแต่อะไรก็ตามที่สะท้อนมาในสื่อมาก แสดงว่าอยู่ในจิตใจประชาชน กดดัน แต่เรื่องอื่นๆ คนอาจจะไม่รู้สึกโดนเท่าเรื่องโกง เพราะไม่อึดอัดใจมาก เพราะเดี๋ยวก็พัฒนาไป แต่เรื่องโกงคนรู้สึกว่าสั่งสมมานานถึงเวลาต้องแก้ไข 


อย่างไรก็ตาม มีหลายโครงการที่เกี่ยวกับครูที่รัฐบาลชุดนี้ได้ดำเนินการไว้ คือการดูแลความเป็นอยู่ของครู การซ่อมแซมบ้านพักครู การแก้ปัญหาหนี้สินครู การเปลี่ยนวิธีการเลื่อนวิทยฐานะ เปิดโอกาสให้ครูได้พัฒนาตนเองผ่านคูปองครู เป็นต้น ตรงนี้ยังไม่ค่อยเห็นว่ามีพรรคการเมืองใดกำหนดเป็นนโยบาย แต่คาดว่าจะทยอยประกาศออกมาหลังจากนี้ ซึ่งก็อยากให้ใครก็ตามที่เข้ามาสานต่อและทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ด้านนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การดำเนินงานของ ศธ.ยึดตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน อาทิ ความมั่นคง ตั้งศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 7,424 ศูนย์ , แก้ ปัญหายาเสพติด สร้างภูมิคุ้มกันในนักเรียนนักศึกษา 3.5 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 87 ของกลุ่มเป้าหมาย เเละช่วยบำบัดเด็กได้เกือบทั้งหมด , โครงการโรงเรียาคุณธรรม ขยายผลทุกโรงเรียนครบเเล้วในปี 2561 , การบริหารจัดการเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนให้มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบเด็กซ้ำซ้อนได้เกือบ 4,000 คนเเละเรียกเงินคืนในรอบ 4 ปีได้ถึง 116 ล้านบาท 

,ช่วยเหลือเด็กอายุ 3-18 ปีที่อยู่นอกระบบกว่า 513,819 คน ให้กลับเข้าเรียนได้เเล้ว 49,434 คน ส่วนที่เหลือพร้อมกลับเข้าสู่ระบบ , พัฒนาครูเเละบุคลากรทางการศึกษา จัดตั้งสถาบันคุรุพัฒนา คัดเลือกหลักสูตรพัฒนาครู 1,207 หลักสูตร ครูได้รับการอบรมเเล้วทุกคน , จัดหาอัตรากำลังทดเเทนครูเกษียณได้กว่า 50,000 อัตราช่วยเเก้ปัญหาขาดเเคลนครู ส่วนการศึกษาใน  กศน. มีผู้เรียน กว่า 1 ล้านคน ซึ่งจะสนับสนุนการเรียนตลอดชีวิต เป็นต้น ซึ่งจากผลการดำเนินงานทั้งหมดจะนำไปสู่การพัฒนาในปีนี้เเละปีต่อๆไปให้สำเร็จขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีความคืบหน้าในการทำงานหลายเรื่อง ตั้งเเต่การจัด การเรียนการสอน โรงเรียนมีตัวชี้วัดในการเรียนการสอนนักเรียน เเต่อดีตบางโรงเรียนบางเเห่งยังมัวสอนเนื้อหาที่มุ่งเเต่การเรียนต่อ ปัจจุบันจึงเสริมเรื่องทักษะ มีชีวิต มีตัวตนเพื่อตอบโจทย์ประเทศ เด็กเรียนเพื่อการโจทย์ของบริบทสังคมไทย มีความรู้ด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์, โครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร เน้น PLC พัฒนาศักยภาพที่เริ่มต้นจากตัวเราเอง จัดอบรมครูภาษาอังกฤษผ่านค่าย Boot camp , เรื่องครูไม่ครบชั้น ไม่ครบวิชาเอก นำระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม DLTV มาใช้ มี 15,369 แห่งได้เรียนผ่านโทรทัศน์ ,

จัดโครงการสานฝันโรงเรียนชายแดนใต้ ลดความเหลื่อมล้ำหลังพบประชาชนสามจังหวัดชายเเดนใต้จำนวนไม่น้อยมีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี ,โครงการเกิดขึ้นใหม่1ตำบล 1โรงเรียนคุณภาพ โดยนำโครงการการเรียนการสอนเด่นๆลงไปใช้ในเเต่ละโรงเรียน , โครงการ E-library รวบรวมหนังสือ เเละสื่อการเรียนต่างๆกว่า 50,000 ไฟล์ในอินเตอร์เน็ต  ซึ่งสามารถอ่านที่ไหนเวลาใดก็ได้ /การจัดตั้งโรงเรียนโคเซ็น ซึ่งเป็นโรงเรียนนวัตกรรมทางสังคมเเห่งเเรกของไทย

ด้านนายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เป็นหน่วยสำคัญในการพัฒนาประเทศไปสู่ไทยแลนด์4.0 มีศูนย์ฝึกทักษะอาชีวะทั่วประเทศ จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมอาชีพในจังหวัดชายแดนใต้ โดยมีผู้เรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11 เป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับการเรียนสายสามัญ ,ลดปัญหาการทะเลาะวิวาท เพราะเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์เเละปลูกฝังเรื่องคุณธรรม อย่างปี 2558 มีการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันเกือบ 200 ครั้ง บาดเจ็บกว่า 100 คน เเละเสียชีวิต 13 คนเเต่ช่วงปี 61 เกิดเหตุวิวาทเเค่ 1 ครั้งเเละปัจจุบันก็ไม่มีเหตุเกิดขึ้นเลย  , ขับเคลื่อนเเละพัฒนากำลังคนในการจัดตั้ง EEC, ยกระดับมาตรฐานอาชีวะสู่สากล ,พัฒนาครูให้มีศักยภาพเเละทักษะภาษาให้ทัดเทียมกับนานาชาติ ขณะที่ภาพรวมคนเรียนอาชีวะเพิ่มขึ้นจากปี 2558 มีผู้เรียนร้อยละ 38 ปัจจุบันร้อยละ 40 เเละตั้งเป้าปี 62 มีผู้เรียนร้อยละ 45 , มีการยุบรวมอาชีวะเอกชนเข้ากับรัฐ เพื่อประสิทธิภาพการทำงาน เเละที่สำคัญช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาคผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี

ขณะที่นางอรสา ภาววิมล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ดำเนินโครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ล่าสุด ปฏิรูปการศึกษาทุกด้าน ทำงานร่วมกับภาคผู้ประกอบการ ทำงานควบคู่กับเรียน คาดตัวเลขปี 2563 มีผู้จบการศึกษาจากโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 6,000 คน , พัฒนาทักษะ ของผู้ที่ทำงานเเต่ต้องการทักษะอื่นเพิ่มเติมได้ 17,000 คน , โครงการไซเบอร์ยูนิเวอร์ซิตี้ มีผู้เรียน 65,000 คน สะสมหน่วยกิตและเรียนวุฒิปริญญาได้ ,นำสถาบัน อุดมศึกษาต่างชาติเข้ามาในไทย , มีวิทยาลัยพี่เลี้ยง ดูแลโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 2,000 แห่ง , จัดสรรทุนให้เด็กได้รับทุนการศึกษาในพื้นที่ชายแดนใต้ มีผู้สำเร็จการศึกษาเเล้วหลายพันคน เเละเดินหน้าสนับสนุนงานวิจัย โดยสกอ.ร่วมมหาวิทยาลัย 158 แห่ง ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศชาติให้ได้

นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวว่า ในภาพรวมระบบการศึกษาของไทยมีผู้เรียนตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา อุดมศึกษา และการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมประมาณ 13 ล้านคนเศษ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ในฐานะหน่วยงานที่ออกนโยบายและสร้างมาตรฐานการทำงานทั้งการปรับเปลี่ยนระบบการประเมินของโรงเรียน ลดการกรอกเอกสาร มีการผลักดันมีพ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ..ที่จะมีส่วนสำคัญในการกำกับมาตรฐานการศึกษา ประกันคุณภาพให้กับผู้เรียนและผู้ปกครอง ขณะเดียวกัน คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.)ที่เข้ามาวางแนวทางการปฏิรูปการศึกษาของประเทศ มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เพื่อช่วยสนับสนุนดูแลส่งเสริมให้ผู้ที่ด้อยโอกาสได้รับโอกาสในการศึกษา อย่างไรก็ตาม อาจจะตั้ง “ธนาคารหน่วยกิต” เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยที่ต้องการพัฒนาตนเอง อยากเข้าสู่ระบบการศึกษาเรียนและสะสมหน่วยกิตได้ เพราะต่อไปนักเรียน นิสิต นักศึกษา ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในสถานศึกษาตลอดเวลาแต่สามารถเรียนได้ทุกที่.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้

วุ่นแต่เช้า! ด่านคลองลึก “ไทย-กัมพูชา” เปิดไม่พร้อมกัน

สระแก้ว 8 มิ.ย.- ด่านคลองลึก วุ่นแต่เช้า! “ไทย-กัมพูชา” เปิดด่านชายแดนไม่พร้อมกัน หลังปรับเวลาวันแรก ทำคนรอหน้าด่านจำนวนมาก ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดประตูด่านพรมแดนคลองลึก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากวันนี้นับเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการเปิดด่านเวลา 08.00 น. พอถึงเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการเปิดประตูด่านพรมแดน บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา แต่ทางฝั่งกัมพูชา ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดด่านแต่อย่างใด โดยมีชาวกัมพูชาและแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากจากฝั่งไทยที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งพนักงานกาสิโนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต้องมายืนรอกัมพูชาเปิดด่าน ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 ได้เดินเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่กัมพูชาบริเวณประตูพรมแดนฝั่งกัมพูชาถึงสาเหตุที่กัมพูชายังไม่เปิดด่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.และตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่าเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาให้เปิดด่านเวลา 09.00 น. ซึ่งไม่ตรงกับไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องออกประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่จะไปทำงานในฝั่งกัมพูชาทราบว่าด่านไทยเปิดเวลา 08.00 น. แต่ด่านกัมพูชา เปิด 09.00 น. […]

“อนุทิน” ยันอุบลฯ ไม่โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน

อุบลราชธานี 8 มิ.ย.- “อนุทิน” ลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว ลั่นจะไม่ให้ใครรุกราน ขณะที่ชาวบ้านยอมรับหวาดกลัว แต่อุ่นใจมีทหารคอยดูแลความปลอดภัย นายอนุทิน​ ชาญ​วีระกูล​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ นำคณะปฏิบัติราชการที่จังหวัดอุบลราชธานี จุดแรกที่ศูนย์พัฒนาเขตพื้นที่ชายแดน บ้านทุ่งสมเด็จ หมู่ที่ 17 ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน เพื่อมอบสิ่งของให้ทหาร​ ชรบ.​อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ จากนั้นไปดูหลุมหลบภัย 2 จุด คือหลุมหลบภัย โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม และหลุมหลบภัยวัดบ้านค้อ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ การลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอนุทินเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์​จากอุบลราชธานี มาพื้นที่ชายแดน​พร้อมกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมการปกครอง​ก่อนวันพุธที่ 11 มิถุนายน​ จะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 7 จังหวัดมาประชุมร่วมกันที่อุบลราชธานี​ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ​ ถึงแนวทางในการดูแลพี่น้องประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นายอนุทิน แนะนำผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ 7 จังหวัด รวมถึงสส. ทั้งของพรรคภูมิใจไทยและต่างพรรคที่มาเป็นกำลังใจให้ทุกคนโดยเฉพาะทหารที่เป็นกำลังสำคัญ​ และรับรองได้ว่าจะไม่ให้ใครรุกรานเข้ามาแม้แต่มิลลิเมตรเดียว​ พร้อมยืนยันอุบลราชธานีไม่ได้โดดเดี่ยว คนไทยทุกคนพร้อมที่จะคอยตรึงแนวหลัง ให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ชาวบ้านในพื้นที่ ที่มารอต้อนรับคณะของนายอนุทิน ยอมรับว่าหวาดกลัวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะเคยประสบเหตุ เหยียบกับระเบิด […]