หลายฝ่ายเชื่อเลือกตั้งส่งผลดีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ

กรุงเทพฯ 17 ม.ค.-เวทีสัมมนาเศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง
ทุกฝ่ายเชื่อว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นจะส่งผลดี
สร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตามการเมืองหลังเลือกตั้งจะต้องมีเสถียรภาพด้วย
ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ตามเป้าหมาย


ในการสัมมนาเรื่อง “เศรษฐกิจไทยกับการเลือกตั้ง”
จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ นางเสาวณีย์ 
ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทยคือมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
เพื่อให้นโยบายและแผนงานต่าง ๆ เดินหน้า
แต่ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย
ซึ่งหากดูภาวะเศรษฐกิจไทยทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ
4
โดยในช่วงไตรมาสแรกอาจชะลอตัวเล็กน้อยแต่ยังเขื่อว่า หากการเลือกตั้งออกมาอย่างไร
โดยการลงทุนของภาคเอกชนเป็นตัวจักรสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้

ทั้งนี้ ทางศูนย์ฯประเมินว่าจะมีเงินสะพัดจากการเลือกตั้งทั้งเลือกตั้งในระดับประเทศและเลือกตั้งท้องถิ่นได้มากกว่า
80,000 ล้านบาท ที่นำไปใช้ผ่านสื่อโฆษณาต่าง
ๆ ผ่านกระตุ้นยอดค้าปลีก และอื่น ๆ โดยเงินสะพัดในการเลือกตั้งครั้งนี้จะดันยอดจีดีพีของไทยได้ถึงร้อยละ
0.3 อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญ
ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองนั้นต้องไปดูว่าหลังการเลือกตั้งแล้วการเมืองจะมีเสถียรภาพมากน้อยแค่ไหนซึ่งหากเป็นไปในทิศทางที่ดีก็จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปี
2562 ขยายตั๋วได้ที่ร้อยละ 4.2


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า
การเลือกตั้งของไทยในครั้งนี้ถือว่าสำคัญอย่างมาก
มีความคาดหวังในภาคธุรกิจอย่างสูงที่อยากจะเห็นการเลือกตั้ง
และทุกฝ่ายรับทราบว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาจะเป็นรัฐบาลผสมและอยากเห็นแผนหรือนโยบายต่าง
ๆ ให้เป็นนโยบายที่ต่อเนื่อง เพราะขณะนี้
ความคาดหวังต่อระบบเศรษฐกิจไทยอยู่ที่แผนการลงทุนของภาคเอกชนแบบระยะยาวที่จะสร้างความมั่นใจและพร้อมที่จะจัดทำแผนลงทุนได้
ดังนั้น หากไม่มีการเลือกตั้งยิ่งจะทำให้ระบบเศรษฐกิจมีปัญหาได้

ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยยังกล่าวด้วยว่า
ปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังมีเรื่องของปัจจัยภายนอกเนื่องจากในช่วง
4-5 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยมีการพึ่งพาเศรษฐกิจจากต่างประเทศมาก อย่างไรก็ตาม
ปีนี้ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยดูได้จากตัวเลขการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ
การบริโภคที่ยังเติบโตได้ดี ขณะที่เศรษฐกิจจีนเชื่อว่าในปีนี้จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ
6 ดังนั้น
เมื่อเศรษฐกิจจีนและสหรัฐยังเติบโตได้ดีก็เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโลกก็จะยังไม่เข้าสู่ภาวพถดถอย

น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย
( สรท.)กล่าวว่า ภาคการส่งออกคาดหวังว่าไทยจะมีการเลือกตั้ง เมื่อมีรัฐบาลแล้วภาคเอกชนอยากเห็นรัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น
เพราะอยากให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อภาคการส่งออกที่ยังมีหลายฉบับที่อยากให้รัฐบาลชุดใหม่มีการปรับแก้ไข
รวมถึงกฎระเบียบของไทยที่อยากให้มีการปรับเปลี่ยนด้วย และอยากให้ประเทศไทยเข้าไปอยู่ในกรอบการเจรจา
FTA ด้วยที่ต้องฝากรัฐบาลชุดใหม่
และสิ่งที่ภาคเอกชนโดยเฉพาะภาคการส่งออกอยากฝากให้ดูแลค่าเงินบาทไม่ควรที่จะแข็งค่ากว่ากลุ่มอาเซียนด้วยกัน
ซึ่งไทยค่าเงินบาทแข็งกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากกว่าร้อย
10
ถือว่าแข็งค่ามากเกินไป


นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยกล่าวว่า
ภาคธุรกิจค้าปลีกไทยอยากเห็นการเลือกตั้ง
เพราะหลายประเทศกำลังจับตาประเทศไทยอยู่โดยเฉพาะภาคธุรกิจค้าปลีกที่หลายประเทศอยากเข้ามาลงทุนค้าปลีกในประเทศไทย
และสิ่งสำคัญอยากให้รัฐบาลใหม่มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของโครงสร้างภาษีต่าง ๆ ที่ไทยยังมีอัตราสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน
หากโครงสร้างภาษีไทยมีการปรับลดลงเชื่อว่าจะอำนวยความสะดวกให้หลายประเทศเข้ามาลงทุนและเป็นการกระตุ้นการค้าและการท่องเที่ยวของไทยสูงขึ้นเม็ดเงินจะไหลเข้าประเทศได้อีกจำนวนมหาศาล
ดังนั้น ในฐานะภาคเอกชนเตรียมทำหนังสือยื่นให้นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลควรปรับอัตราภาษีทั้งระบบเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวและการลงทุน
และอยากเห็นรัฐบาลใหม่ช่วยแก้ไขในเรื่องเหล่านี้ด้วย-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น