กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – ธนาคารออมสินเผยผลตรวจสอบสินเชื่อสามล้อเอื้ออาทร หลังสมาชิกสหกรณ์บริการจักรเพชรกู้เงินซื้อรถสามล้อจากธนาคารออมสินสาขาเยาวราชและสาขาสยามพารากอน ไม่ปรากฎว่า พนักงานออมสินมีส่วนได้เสีย พร้อมรับประสานตรวจสอบสถานะของลูกหนี้รายตัวกับทางสหกรณ์ โดยจะรับดูแลเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนผ่านมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเท่านั้น และให้เลือกว่าจะผ่อนหนี้ที่เหลือกับสหกรณ์หรือธนาคารออมสิน
ช่วงเช้าวันนี้ (15 ม.ค.) ธนาคารออมสิน นำโดยนายประเสริฐ กล่อมจันทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน จัดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตามโครงการสามล้อเอื้ออาทร ที่มีสหกรณ์บริการจักรเพชร จำกัด เป็นผู้ดำเนินโครงการและมีการกู้เงินจากธนาคารออมสินสาขาสยามพารากอนและสาขาเยาวราช โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมสหกรณ์เข้าร่วมชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
นายประเสริฐ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของธนาคารออมสินในการปล่อยสินเชื่อตามโครงการสามล้อเอื้ออาทร ผลการสอบไม่ปรากฎว่าพนักงานออมสินมีส่วนได้เสียกับการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้แต่อย่างใด สำหรับการชะลอดำเนินคดีของธนาคารออมสินนั้น ธนาคารมีการดำเนินการดังนี้ ธนาคารออมสิน สาขาเยาวราช มีผู้กู้กว่า 100 ราย ชะลอฟ้องคดี 26 ราย เลื่อนดำเนินคดี 67 ราย ชะลอบังคับคดี 10 ราย ส่วนสาขาพารากอน มีผู้กู้กว่า 60 ราย ชะลอฟ้องคดี 22 ราย เลื่อนดำเนินคดี 33 ราย ชะลอบังคับคดี 4 ราย ทั้งนี้ ทั้ง 2 สาขา มีลูกค้าชำระเงินกู้ตามปกติ 4 ราย
นายประเสริฐ กล่าวว่า ธนาคารออมสินหาทางแก้ไขหนี้ของผู้กู้ตามโครงการสามล้อเอื้ออาทรเช่นกัน โดยจะต้องมีการตรวจสอบภาระหนี้สุทธิแต่ละคนที่ยื่นขอกู้ โดยนำเงินฝากที่มีอยู่กับสหกรณ์บริการจักรเพชรไปหักกลบลบหนี้ที่ติดอยู่กับสหกรณ์เหลือหนี้สุทธิเท่าใด หากสมาชิกสหกรณ์รายใดประสงค์จะเป็นหนี้เฉพาะออมสินก็สามารถทำได้ ซึ่งทางธนาคารจะขอตรวจสอบความสามารถชำระหนี้ หากความสามารถในการชำระหนี้ไม่เพียงพอ ทางธนาคารออมสินจะหาทางแก้ไขหนี้ให้ตรงกับความสามารถในการชำระหนี้ของแต่ละคน นอกจากนี้ ในช่วงปรับตัวของผู้กู้จะให้ส่งเฉพาะดอกเบี้ยประจำงวด 2 ปี โดยไม่ต้องส่งเงินต้น และให้เริ่มผ่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยปีที่ 3 โดยเป็นการขยายอายุสัญญาเงินกู้ให้ต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวว่า ธนาคารออมสินพร้อมเป็นตัวกลางตรวจสอบสถานะของลูกหนี้เป็นรายตัวกับทางสหกรณ์บริการจักรเพชร เพื่อเหลือหนี้สุดท้ายก้อนเดียว โดยการตรวจสอบสถานะของผู้กู้แต่ละคน ทางธนาคารออมสินจะรับรายชื่อเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนผ่านมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเท่านั้น
ด้านตัวแทนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ชี้แจงว่าจากกรณีที่มีสมาชิกสหกรณ์บริการจักรเพชรร้องเรียนเข้ามาแบ่งเป็นกลุ่มสามล้อและรถเมล์ นายทะเบียนจึงแต่งตั้งผู้ตรวจการเฉพาะกิจไปตรวจสอบที่สหกรณ์บริการจักรเพชร ว่า เกิดอะไรขึ้น เพราะสาเหตุใดสมาชิกสหกรณ์จึงเป็นหนี้ทั้งสหกรณ์บริการจักรเพชรและธนาคารออมสิน ซึ่งพบว่าสหกรณ์บริการจักรเพชรปิดบัญชีไม่ได้ตั้งแต่ปี 2559 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจากการตรวจสอบสัญญาเงินกู้ที่สมาชิกร้องเรียนทำไว้กับสหกรณ์ขณะนี้เอกสารบางส่วนอยู่สำนักงานรับจ้างจัดทำบัญชี และสหกรณ์อยู่ระหว่างจัดทำบัญชี เพื่อให้ผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจสอบ
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบสัญญาเงินกู้พบว่า เป็นไปตามกฎหมายคิดดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ส่วนเงินรับฝากเป็นเงินที่สหกรณ์ได้รับมาจากธนาคารออมสินเปิดเป็นบัญชีเงินฝากที่สหกรณ์บริการจักรเพชรเท่ากับเป็นเงินที่กู้มาจากธนาคารออมสิน โดยสหกรณ์ให้ดอกร้อยละ 0.5 ต่อปี แต่สมาชิกมีหนี้กับสหกรณ์เช่นกัน
ส่วนการแก้ไขปัญหานี้ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีคำสั่งให้สหกรณ์บริการจักรเพชรแก้ไข โดยให้ระงับการดำเนินธุรกิจลักษณะให้สมาชิกกู้เงินแล้วสหกรณ์บริหารเงินของสมาชิกเรื่องนี้จะไม่มีอีกแล้ว นอกจากนี้ ยังต้องหาแนวทางแก้ไขเยียวยาช่วยสมาชิกที่เป็นหนี้สหกรณ์ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ กลุ่มแรก สมาชิกสหกรณ์รายใดที่มีเงินฝากมากกว่าสัญญาเงินกู้กับสหกรณ์ หากต้องการหักกลบลบหนี้ก็ทำได้ จะฝากต่อไปก็ฝากต่อได้ หากไม่ฝากต่อก็สามารรถถอนออกจากสหกรณ์ได้ หรือสมาชิกประสงค์ให้สหกรณ์โอนเงินยอดส่วนต่างไปชำระหนี้ให้ออมสินและปิดบัญชีหนี้สหกรณ์ และส่งชำระหนี้ออมสินเพียงอย่างเดียวก็ทำได้ โดยคำสั่งนี้ออกมาตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 และดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน ขณะนี้ขยายออกไปอีก 30 วัน อีกกรณี คือ สมาชิกสหกรณ์ที่ส่งเงินไม่พอชำระหนี้ เรื่องนี้จะมีความยากกว่าในการแก้ไขปัญหา แต่จะต้องหาทางช่วยแก้กันต่อไป
นางสาวสาลี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ขอให้ทางสหกรณ์บริการจักรเพชรดำเนินการเคลียร์บัญชีลูกหนี้แต่ละรายให้มีความชัดเจนและขอให้ทางธนาคารออมสินช่วยจำหน่ายคดีชั่วคราวออกไปก่อน โดยขอให้ทางสหกรณ์บริการจักรเพชรกับธนาคารออมสินตกลงกันว่าจะดำเนินการในเวลากี่วัน จากนั้นกลุ่มผู้กู้ทั้งหมดพร้อมจะมารับฟังแนวทางแก้ไขปัญหานี้อีกครั้ง โดยภาระหนี้จะต้องอยู่ที่ 345,000 บาท ไม่ใช่ตัวเลขหนี้สูงถึง 700,000 บาทต่อราย หลักการ คือ เป็นหนี้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น
ตัวแทนสหกรณ์บริการจักรเพชร กล่าวว่า การกู้เงินจากธนาคารออมสิน ผู้กู้ไม่มีหลักประกันใด ๆ แต่เป็นการกู้เงินในฐานะสมาชิกสหกรณ์ เมื่อรับรถสามล้อไป ขณะที่สหกรณ์ทยอยส่งเงินค่างวดชำระหนี้ให้กับธนาคารออมสินทุก ๆ เดือน แต่บางรายสหกรณ์พบว่าส่งเงินผ่อนไม่เพียงพอกับค่างวด แต่ทางสหกรณ์ได้ผ่อนชำระเงินค่างวดให้กับทางธนาคารออมสินเต็มจำนวนทุกงวด บางคนจึงเป็นหนี้กับสหกรณ์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้สหกรณ์ยังไม่ทราบว่าสมาชิกรายใดถูกธนาคารออมสินฟ้องบ้าง จึงขอให้สมาชิกเข้าไปติดต่อกับทางสหกรณ์ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป. -สำนักข่าวไทย