ทำเนียบฯ 11 ม.ค. – บอร์ดบีโอไอหนุนภาคอีสานศูนย์กลางซ่อมสร้างระบบราง คาด 20 ปีข้างหน้าต้องการโบกี้รถไฟนับหมื่นตู้ หวังสร้างงานคนท้องถิ่น พร้อมหนุนกิจการพิพิธภัณฑ์ กระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากอนาคตการพัฒนาระบบรางระยะทางรวมมากกว่า 6,000 กิโลเมตร ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางเบา เพื่อส่งเสริมสการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง หวังขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย และลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ จึงต้องการส่งเสริมเอกชนผู้ผลิตโครงสร้างหลักตู้โดยสาร (โบกี้รถไฟ) ห้องควบคุมรถและอุปกรณ์ โบกี้ ระบบห้ามล้อ ชิ้นส่วนสำคัญ ระบบไฟฟ้าและระบบจ่ายไฟฟ้า ระบบควบคุมและระบบอาณัติสัญญาน รางและชิ้นส่วนราง รวมทั้งการออกแบบทางวิศวกรรม
สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คาดการณ์ว่าในช่วง 20 ปีข้างหน้ามีความต้องการขบวนตู้รถไฟทุกระบบ 10,000 ตู้ ทั้งตู้โดยสารรถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ ระบบรางเบา ดังนั้น ภาคเอกชนต้องผลิตขบวนรถไฟให้ได้ 300 ตู้ต่อปี ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า บีโอไอจึงต้องการส่งเสริมการลงทุนระบบราง เปิดให้ภาคเอกชนยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 3-5 ปี หากภาคเอกชนมาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมระบบรางในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ ขอนแก่น และนครราชสีมา จะลดภาษีให้นาน 5 ปี หวังให้ภาคอีสานเป็นศูนย์กลางการผลิต ซ่อม สร้างขบวนรถไฟฟ้า และโลจิสติกส์ หวังสร้างแรงงานท้องถิ่นที่ต้องการแรงงานจำนวนมากในอนาคต ช่วงที่ผ่านมาบีโอไอออกไปชักชวนนักลงทุนต่างชาติ เช่น เยอรมนี เข้ามาลงทุนระบบรางในเมืองไทย
ขณะเดียวกันที่ประชุมได้เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการสร้างท่าเรือน้ำลึกรองรับเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ (CRUISE TERMINAL) สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำและเชื่อมโยงทะเลฝั่งอ่าวไทย-อันดามัน กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวยกระดับแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยให้สิทธิประโยชน์เอกชนผู้รับสัมปทานวงเงินลงทุน 100 ล้านบาทขึ้นไปได้รับการลดหย่อนภาษีนิติบุคคลระยะเวลา 5 ปี และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ปรับปรุงแก้ไขหรือขยายขอบเขตประเภทกิจการ หวังส่งเสริมการลงทุนเดิม อาทิ กิจการพิพิธภัณฑ์ ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมกิจการพิพิธภัณฑ์ในรูปแบบหลากหลายขึ้นในการท่องเที่ยวเมืองรอง จากเดิมกำหนดลงทุน 100 ล้านบาท ลดเหลือ 30 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว.-สำนักข่าวไทย
