ภาครัฐ เอกชน เฮ! หลังอียูปลดใบเหลืองประมงไทย

อสมท 9 ม.ค.- ภาครัฐ เอกชน เฮ! อียูปลดใบเหลืองประมงไทย ด้านชาวประมงตัวจริงไม่ดีใจ อยากเห็นรัฐผ่อนปรนกฏหมายเข้มงวด


โดยอียูได้เพิกถอนประเทศไทย จากกลุ่ม “ประเทศที่ถูกเตือน” ทำการประมงที่ผิดกฎหมาย หรือ IUU ซึ่งย่อมาจาก Illegal, Unreported and Unregulated Fishing เป็นการยอมรับความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการจับปลาที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม แถลงการณ์ของอียู ระบุว่ารับทราบถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่องในระบบกฎหมาย และการบริหารการประมงของประเทศไทย ด้วยเหตุนี้จึงได้มีมติยก “ใบเหลือง” ที่ได้ประกาศเมื่อเดือนเมษายน 2558 ซึ่งที่ผ่านมาไทยได้ยกระดับการกำกับดูแลกิจการประมงของไทย ให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศของประเทศมี 6 กรอบที่สำคัญ ทั้งด้านกฎหมาย ด้านการจัดการกองเรือ การติดตามควบคุมเฝ้าระวัง การตรวจสอบย้อนกลับ การบังคับใช้กฎหมายและด้านแรงงาน ส่งผลให้ไทยหลุดเรื่องการมองว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยประเทศไทยได้ประกาศให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 188 ว่าด้วยการทำงานในกิจการประมง (C188) ซึ่งเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ให้สัตยาบันนี้


ในวันนี้ภาครัฐและเอกชน ทั้งต่างออกมาแสดงความยินดีเรื่องนี้ โดยมองว่าเป็นความร่วมมือจนไทยหลุดพ้นใบเหลือง ไปสู่สถานะปกติ หรือใบเขียว เพราะ หากไม่ถูกปลดใบเหลือง แล้วก้าวไปสู่ใบแดง นั่นหมายถึงจะกระทบอย่างหนัก เพราะสินค้าประมงทุกประเภทที่จับโดยเรือที่ชักธงไทยจะถูกระงับการนำเข้าสู่ตลาดสหภาพยุโรป ยกเว้นรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้น เช่น สินค้าสัตว์น้ำที่มาจากการเพาะเลี้ยง

ซึ่งมูลค่าการส่งของของอุตสาหกรรมการประมงของไทยสูงถึงราวกว่า 1.1 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตามหลังถูกปลดใบเหลือง เอกชนมองว่าจะส่งออกได้มากขึ้น เช่น กลุ่มอาหารทะเลแช่เยือกแข็ง คาดว่าจะส่งออกจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2-3 มีมูลค่าประมาณ 89,000 ล้านบาท กลุ่มอาหารสำเร็จรูปคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 5 มูลค่าส่งออกกว่า 190,000 ล้านบาท ส่วนการส่งออกสินค้าทูน่า คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 10 จากกว่า 82,000 ล้านบาทปีที่แล้ว มาเป็น 110,000 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการไขปัญหาของภาครัฐที่สำเร็จทำให้มีปลามากขึ้นและตัวใหญ่มากขึ้น


แต่ในส่วนชาวประมงในไทย ทั้งที่ระนอง และสมุทรสาคร ต่างพูดไปในทางเดียวกันว่าไม่ค่อยได้ประโยชน์ จากการปลดล็อกใบเหลืองไอยูยูครั้งนี้ เพราะสภาพความเป็นจริงคือ ชาวประมง ได้พยายามดำเนินการให้ถูกต้องตามที่รัฐบาลกำหนด เช่นเรื่องแรงงาน เรื่องอุปกรณ์ ขั้นตอนในการเข้า-ออก ทำให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น มีเรือจำนวนมากที่ต้องหยุดทำการประมงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยที่ระนองมีเรือประมงมากกว่า 300 ลำ ได้หยุดเรือไปแล้ว 126 ลำ ชาวประมงต้องการขายเรือและรอการชดเชยจากภาครัฐ ชาวประมงหลายคนขอให้ รัฐบาลพิจารณาผ่อนปรนการเข้มงวดทางกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้ทาง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บอกว่าจะพิจารณาทบทวนกฎหมายในเร็วนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง ภาคเหนืออากาศร้อนจัด ด้านกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน