ครอบครัวผู้ต้องสงสัยสังหาร น้องต้าแง กลางไร่อ้อยร้องกองปราบ

สุพรรณบุรี 9 ม.ค. – ครอบครัวผู้ต้องสงสัยสังหาร “น้องต้าแง” วัย 2 ขวบ กลางไร่อ้อยจังหวัดสุพรรณบุรี ร้องกองปราบให้ช่วยคลี่คลายคดี หลังพบพิรุธหลายอย่าง


นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ นายสมจิต ฉิมมา และนางพยุง สร้อยทอง พ่อแม่ของนายทองขวัญ ฉิมมา หรือ นายฝน ผู้ต้องหาคดีพรากผู้เยาว์ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม ให้เปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรสระยายโสม เป็นพนักงานสอบสวนกองปราบปราม และขอให้สืบสวนคดีใหม่ทั้งหมด หลังพบพิรุธหลายอย่าง



นายอนันต์ชัย ระบุว่า จากการพูดคุยกับครอบครัวนายทองขวัญ พบว่า นอกจากนายทองขวัญจะเป็นผู้พิการทางสติปัญญาแล้ว ยังพิการทางการเรียนรู้ และเป็นออทิสติก  ทำให้นายทองขวัญมีอายุสมองเท่ากับเด็ก 5 ขวบ ประกอบกับนายทองขวัญไม่เคยไปบริเวณไร่อ้อยที่เกิดเหตุ และระยะทางจากวัดไปถึงจุดพบศพน้องต้าแง ไกลถึง 3.4 กิโลเมตร และไกลจากบ้านของนายทองขวัญ 1.5 กิโลเมตร ระหว่างทางเป็นป่าอ้อย ทางคดเคี้ยวหลายแยก หากนายทองขวัญไปจริง เชื่อว่าไม่มีทางกลับบ้านถูกแน่นอน ประกอบกับพฤติกรรมของนายทองขวัญเวลาไปไหนชอบขี่รถจักรยานและรักรถจักรยานมาก ไม่มีทางทิ้งรถจักรยานแล้วจูงเด็กชายไปแน่นอน แต่หากวิเคราะห์ว่าให้เด็กชายนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานก็เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีที่นั่งซ้อนท้าย

นอกจากนี้ยังพบพิรุธทางคดีหลายส่วน และพบการทำลายสถานที่ด้วยการลอกคูน้ำขึ้นมาทั้งหมด ขณะเดียวกันยังตั้งข้อสังเกตว่า ขณะที่พนักงานสอบสวนนำตัวนายทองขวัญชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีการใช้คำถามชี้นำ จนทำให้นายทองขวัญตอบเพียงคำว่า “อื้อ” เนื่องจากเป็นเด็กออทิสติก ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่เรียกพยานปากสำคัญ ที่สามารถยืนยันได้ว่านายทองขวัญไม่อยู่กับน้องต้าแงไปสอบสวน ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการจัดฉาก น่าจะเสียชีวิตจากจุดอื่น ก่อนนำศพไปทิ้งจุดพบศพ เนื่องจากก่อนหน้านี้ เคยมีการค้นหาหลายครั้งแต่ไม่พบศพ ขณะที่ผลนิติวิทยาศาสตร์ยังระบุว่า เด็กชายวัย 2 ขวบไม่ได้เสียชีวิตจากการจมน้ำ แต่จุดเกิดเหตุกลับมีคูน้ำจึงตั้งข้อสังเกตว่าขัดแย้งกับข้อเท็จจริง

ด้านพ่อนายทองขวัญ ยืนยันว่า ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากลูกไม่เคยออกนอกเส้นทางจากวัดกลับบ้าน  มีเพียงครั้งเดียว และหลงหาทางกลับบ้านไม่ถูก ขณะที่บ่ายวันนี้ ครอบครัวจะไปร้องต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยพนักงานสอบสวนด้วย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม