รร.เรเนซองส์ 9 ม.ค. – หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ 3 สมาคมสินค้าประมง สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป และสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย แถลงขอบคุณและชื่นชมรัฐบาลหลังสหภาพยุโรป (อียู) ปลดล็อคใบเหลืองไอยูยู เชื่อจะเป็นจุดเริ่มต้นฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลอด 4 ปีที่ประเทศไทยแก้ปัญหาอย่างจริงจังด้วยการใช้ยาแรง สะท้อนให้สังคมโลกเห็นว่าประเทศไทยเป็นผู้นำภูมิภาคแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย รวมทั้งการดำเนินการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว แรงงานเด็กและการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โดยปี 2561 รายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐ ประเทศไทยอยู่ที่ระดับ Tier 2 ทั้งหมดถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับประเทศไทยในการพัฒนาเกษตรและอุตสาหกรรมประมงของไทยในอนาคต และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อภาพลักษณ์สินค้าประมงไทย ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่แก้ปัญหานี้สำเร็จ หลังจากนี้ไปรัฐบาลและเอกชนต้องร่วมมือกันรักษามาตรฐานและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลให้เพียงพอต่อการบริโภคและการส่งออก เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการประมงต่อไป
นายชนินท์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย กล่าวว่า การที่ประเทศไทยหลุดจากใบเหลือง ถือเป็นจุดเริ่มต้นการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล ซึ่งจะทำประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเล โดยที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสัตว์น้ำในอ่าวไทยและอันดามันลดลงอย่างมาก จาก 3 ล้านตันในปี 2528 เหลือ 1 ล้านตันในปี 2558 ซึ่งที่ผ่านมาฟื้นฟูได้เพียง 200,000 ตัน ตั้งเป้าหมายฟื้นฟูสัตว์น้ำในทะเลให้ได้ 2 ล้านตันในอีก 10 ปีข้างหน้า
ส่วนการส่งออกสินค้าทูน่าไทยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 10 จากมูลค่า 82,620 ล้านบาทในปีที่แล้ว เป็น 110,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการแก้ไขปัญหาของภาครัฐที่สำเร็จ ทำให้แนวโน้มวัตถุดิบมีมากขึ้น เพียงพอ และปลาตัวใหญ่ขึ้น
ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า ปีนี้การส่งออกอาหารสำเร็จรูปจะ ขยายตัวร้อยละ 5 จากมูลค่าการส่งออกที่ 191,065 ล้านบาท มาจากโอกาสการตลาดในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ เช่น ละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง อาเซียน โดยอุปสรรคสำคัญ คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่อาจกระทบทำให้บรรยากาศการค้าโลกไม่สดใส และความผันผวนของเงินบาท โดยเฉพาะเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งปีที่ผ่านมาแข็งค่าประมาณร้อยละ 5 ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจะฉุดความสามารถการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ และจะกระทบการส่งออก เกษตร ประมง
ด้านนายผณิศวร ชำนาญเวช นายกกิตติคุณสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย และประธานคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง คาดว่าอาหารทะเลแช่เยือกแข็งจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2-3 โดยมีมูลค่าการส่งออก 89,000 ล้านบาท ภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น โดยมาจากการที่รัฐบาลไทยจัดระเบียบเรือ ระบบการจัดการด้านเอกสารตรวจสอบย้อนกลับที่ดี เป็นการสร้างโอกาสในการเพิ่มการนำเข้าสินค้าที่จับจากธรรมชาติมาเพื่อแปรรูปส่งออก ทำให้สินค้าประมงของไทยได้รับความเชื่อมั่นจากประเทศผู้นำเข้าเพิ่มขึ้นและมีแนวโน้มที่จะขยายปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดหลัก.-สำนักข่าวไทย