กรุงเทพฯ 9 ม.ค. – บสย.เผยปี 2561 ช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้เอสเอ็มอี 88,878 ล้านบาท ส่วนแผนปี 62 ตั้งเป้าค้ำประกัน 107,000 ล้านบาท มุ่งทำงานภายใต้นโยบาย “บสย. 4.0 เคียงคู่ ผู้ประกอบการ SMEs ไทย” ปั้น “New Business Model 2019” เล็งปรับพอร์ตค้ำประกันสินเชื่อสู่ Direct Guarantee
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยผลดำเนินงานค้ำประกันสินเชื่อ บสย.ปี 2561ว่า ภาพรวมผลดำเนินงานยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ด้วยยอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อรวม 88,878 ล้านบาท คิดเป็นวงเงินสินเชื่อที่สถาบันการเงินอนุมัติจากการค้ำประกันสินเชื่อรวม 133,191 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่อนุมัติค้ำประกันสินเชื่อรวม 86,633 ล้านบาท หรือ 1.5 เท่า ของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท หรือเทียบเท่าร้อยละ 3 ของจีดีพีปี 2561 ของประเทศ มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อรวม 77,862 ราย การอนุมัติทำผ่านโครงการ SMEs ทวีทุน (PGS6 ปรับปรุงใหม่ สิ้นสุดโครงการ ณ 30 มิ.ย. 2561) และโครงการ SMEs ทวีทรัพย์ (PGS7) ระยะเวลาโครงการ 24 กรกฎาคม 2561 สิ้นสุดวันที่ 23 กรกฎาคม 2563
สำหรับผลงานโดดเด่นปี 2561 คือ การสร้างความร่วมมือค้ำประกันสินเชื่อกับสถาบันการเงินของรัฐ : SFIs ซึ่ง บสย.ร่วมกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้มียอดค้ำประกันสินเชื่อในกลุ่มสถาบันการเงินของรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 หรือเท่ากับ 42,533 ล้านบาท เทียบกับยอดอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อปี 2560 มีวงเงิน 37,347 ล้านบาท ผลการทำงานปี 2561 สะท้อนถึงการกลุ่มสถาบันการเงินของรัฐที่ร่วมกันผนึกกำลังช่วยขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐสร้างการเติบโตให้กับเอสเอ็มอีได้อย่างต่อเนื่องและมีศักยภาพ
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าวถึงเป้าหมายปี 2562 ว่า บสย.ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มเป็น 107,000 ล้านบาท และภายใต้ความท้าทายในโลก ยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนเร็ว บสย.จึงปรับตัวเร็วด้วยแผนงาน “บสย.4.0 เคียงคู่ผู้ประกอบการ SMEs ไทย” ภายใต้แนวคิด “New Business Model 2019” ปรับ Roadmap มุ่งยกระดับการทำงานองค์กรอย่างเต็มประสิทธิภาพ คิดใหม่ ทำใหม่ ขับเคลื่อนสู่องค์กรดิจิทัล เต็มรูปแบบ พัฒนาระบบฐานข้อมูล Data Management เชื่อมการทำงาน บสย. ทั้งภายในและภายนอก ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ SOS ได้แก่ 1.SMEs Capacity Enhancer 2.Opportunity Gateway 3.Second Chance Provider เพื่อให้การสนับสนุนเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนในระบบมากขึ้น การให้ความรู้ทางการเงิน การขยายฐานการสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ต้องการขยายการลงทุนในต่างประเทศ ผู้ประกอบการกลุ่ม S-curve และ Start-up และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่ม NPLs กลุ่มฟื้นฟูกิจการมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อเช่นกัน
ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Market Segmentation) อาทิ กลุ่มลูกค้ารายย่อย (Micro) กลุ่มลูกค้า Small กลุ่มลูกค้า S-curve กลุ่มลูกค้าฟื้นฟูกิจการ และกลุ่มผู้ประกอบการในโครงการสินเชื่อประชารัฐ เช่น ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ผู้ประกอบการแท็กซี่ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันในรูปแบบ Direct Guarantee โดยเป้าหมายตามแผนวิสาหกิจ บสย.ปี 2562 คือ ให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการใหม่เพิ่มขึ้น 82,600 ราย จากปีที่ผ่านมาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการใหม่ 77,862 ราย ซึ่งแนวคิดการนำรูปแบบการค้ำประกันแบบ Direct Guarantee เป็นหนึ่งในแนวทางการดำเนินงาน บสย. เพื่อลดการพึ่งพาจากภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงแผนการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าจัดเก็บหนี้ให้ได้ 550 ล้านบาท หรือกว่า 3,000 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ซึ่งเก็บหนี้ได้ 380 ล้านบาท หรือกว่า 2,000 ราย. -สำนักข่าวไทย