กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-ผบช.สตม. ยอมปล่อยไฟเขียวอนุญาต สาวซาอุฯ เข้าเมือง ส่งตัวให้ UNHCR ดูแลระหว่างพิจารณาลี้ภัยไปประเทศที่สาม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. แถลงภายหลังร่วมกับเจ้าหน้าที่การท่าฯ และ UNHCR เข้าพูดคุยกับ น.ส.ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด เอ็ม อัลคูนัน อายุ 18 ปี ชาวซาอุดีอาระเบีย ว่า จากการพูดคุย น.ส.ราฮาฟฯ มีความประสงค์ กลับเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยระยะหนึ่ง เพื่อขอสถานะผู้ลี้ภัยจาก UNHCR ไปยังประเทศที่สาม โดยยืนยันไม่ประสงค์จะกลับไปซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้ ครั้งแรก ตม.ปฏิเสธการเข้าเมือง เนื่องจากไม่มีวีซ่า ไม่มีแผนท่องเที่ยว และอื่นๆ ที่จำเป็น แต่เมื่อ น.ส.ราฮาฟฯ หนีร้อนมาพึ่งเย็น ในฐานะ ผบช.สตม. จึงใช้อำนาจตาม กม.เข้าเมือง อนุญาตให้เธอเข้าเมืองได้ แต่ให้พักอาศัยและอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ UNHCR ในประเทศไทย ระหว่างพิจารณาสถานะผู้ลี้ภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล ส่วนประเด็นขอลี้ภัยไปออสเตรเลียนั้น เป็นเรื่องที่ไม่จริง
พล.ต.ท สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ1) ร่วมกันแถลงผลการเจรจาในครั้งนี้
โดย พล.ต.ท สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยวการท่าอากาศยาน กระทรวงการต่างประเทศสำนักงานข้าหลวงใหญ่แห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย ผลเจรจาเป็นที่น่าพอใจ นางสาวราฮาฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน หญิงชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 18 ปี ที่หลบหนีการแต่งงานเข้ามาในประเทศไทย ตัดสินใจที่จะขอมาพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยระยะหนึ่ง ก่อนที่จะยื่นเรื่องขอสถานะผู้ลี้ภัย และตัดสินใจว่าจะเดินทางต่อไปยังประเทศใด ทั้งนี้ภายในห้าวันจะสรุปแล้ว จะส่งตัวต่อไปโดยที่ไม่มีความผิด เนื่องจากว่าตัวของมีสาวซาอุฯ รายนี้ไม่ได้เข้ามาในประเทศไทย จึงไม่มีข้อหาโอเวอร์สเตย์ และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาในการอยู่ในประเทศไทยจะมีทางตำรวจนั้นคอยดูแลรักษาความปลอดภัยเพื่อเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับหญิงสาวรายนี้.-สำนักข่าวไทย