สุราษฎร์ธานี 4 ม.ค. – จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ติดกับ จ.นครศรีธรรมราช และได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกไม่น้อย ภาพรวมสถานการณ์ล่าสุด แม้ฝนเริ่มเบาบางลง แต่ทางจังหวัดก็ยังเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ส่วนจุดเฝ้าระวังสูงสุดที่ อ.ดอนสัก เนื่องจากเป็นจุดรับลม และเป็นพื้นที่รอยต่อ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช
ย้อนไปดูภาพรวมในช่วงบ่าย ซึ่งจุดที่มีคลื่นลมแรงที่สุด คือ บริเวณชุมชนบ้านเกาะแรต หมู่ 3 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก แม้จะเคยเจอมรสุมมาหลายครั้ง แต่พายุครั้งนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา ชุมชนบ้านเกาะแรต มี 103 ครัวเรือน ประชาชน 318 คน ขณะนี้อพยพไปอยู่ที่ศูนย์อพยพวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ (วัดหลวงพ่อจ้อย) ส่วนชาวบ้านที่ยังอยู่เป็นชาวบ้านกลุ่มสุดท้ายที่อาสาคอยดูแลทรัพย์สินและเรือประมง นอกจากชุมชนบ้านเกาะแรต ยังมีชุมชนบ้านหาดนางกำ และชุมชนบ้านฝ่ายท่า
ฝนที่ตกหนักตลอดช่วงบ่าย ทำให้ตำรวจทางหลวงกาญจนดิษฐ์ ต้องตั้งป้ายเตือนบนถนน 401 สำหรับรถที่มุ่งหน้า อ.ท่าศาลา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ให้หลีกเลี่ยงใช้เส้นทาง 401 จากแยกคลองเหลง-อ.กาญจนดิษฐ์-อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช โดยให้ใช้ทางเบี่ยง หมายเลข 44, 41 ล่าสุดมีรายงานว่า เปิดให้ใช้เส้นทางได้ตามปกติแล้ว
สำหรับพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาหลวง ซึ่งน้ำจะไหลเป็น 2 สาย ลงสู่คลองหวาด อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช
ขณะที่ ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก มีศูนย์อพยพ 3 จุด คือ ที่ศูนย์อพยพวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ (วัดหลวงพ่อจ้อย) วัดท้องอ่าว และโรงเรียนบ้านนางกำ รวม 700 คน
กำนัน ต.ดอนสัก บอกว่า ศูนย์อพยพวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ (วัดหลวงพ่อจ้อย) มีผู้อพยพมากที่สุดประมาณ 400 คน เป็นจุดปลอดภัย เพราะตรงนี้เป็นที่สูง และมีเขาบังลม นอกจากนี้ยังมีอาหารและน้ำดื่มดูแลอย่างดี โดยทางเทศบาลฯ และชาวบ้านนำอาหารมาบริจาค. – สำนักข่าวไทย