ชี้ผลสำรวจพบคนไทยตื่นตัวเลือกตั้ง

สถาบันพระปกเกล้า 4 ม.ค.-สถาบันประปกเกล้า เปิดผลสำรวจประชาชน พบคนไทยตื่นตัวเลือกตั้ง ให้ความสำคัญกับผู้นำที่พรรคการเมืองชูนั่งนายกฯ และให้ความสำคัญกับนโยบายลดลง


นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า แถลงผลการสำรวจความคิดเห็น ครั้งที่ 2 ต่อ “การรับรู้ เกณฑ์การตัดสินใจ และการยอมรับผลการเลือกตั้งของประชาชน” ตามโครงการ KPI Election Watch ว่า จากการสำรวจความเห็นของประชาชนกลุ่มตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 26-30 ธันวาคม 2561 บนพื้นฐานที่คาดว่าจะเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,540 ตัวอย่าง อายุ 18 ปีขึ้นทั่วประเทศ พบว่าการตัดสินใจของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป เมื่อทราบว่ามีการใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ที่จะสะท้อนการเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต ,ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการสำรวจครั้งแรก ประชาชนจะให้ความสำคัญที่นโยบายพรรค มาเป็นอันดับหนึ่ง ร้อยละ 41.9 และให้ความสำคัญกับผู้นำน้อยสุด เพียงร้อยละ 8 แต่เมื่อรับทราบข้อมูลแล้ว พฤติกรรม หรือเกณฑ์ในการตัดสินใจของประชาชนเปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับตัวผู้นำเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ถึงร้อยละ 16.5 และให้ความสำคัญกับตัวนโยบายลดลง 

นายวุฒิสาร กล่าวด้วยว่า ประชาชนเกินครึ่ง คือ ร้อยละ 53.5 ยังไม่เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม และมีค่อนข้างเชื่อมั่น และเชื่อมั่นอย่างมาก ร้อยละ 46.5 ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับในผลการเลือกตั้งครั้งนี้อันดับหนึ่ง ร้อยละ 35.6 คือ กกต.ต้องทำหน้าที่อย่างสุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และยุติธรรม ขณะที่ร้อยละ 11.6 ระบุว่าผลการเลือกตั้งตรงตามที่ประชาชนเลือก สะท้อนความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ ขณะที่ร้อยละ 10.6 ระบุว่า ประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก การมีส่วนร่วมของประชาชน และร้อยละ 61 ระบุว่า ความเป็นกลางของรัฐบาล ส่วนสำคัญที่อาจทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับผลในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า ร้อยละ 31 ระบุว่า การทุจริต มีการโกงการเลือกตั้ง ขณะที่ร้อยละ 18.1 ระบุว่าการซื้อสิทธิขายเสียง แจกเงินหรือสิ่งจูงใจ เพื่อชนะการเลือกตั้ง ร้อยละ 5.5 ระบุว่าการใช้อำนาจหรืออิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้ง และร้อยละ 4.2 ระบุว่าพรรคการเมืองแข่งขันแบบเอารัดเอาเปรียบ 


นายวุฒิสาร กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่มั่นใจว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งแน่ ๆ คือ ภาคเหนือร้อยละ 93.8 รองลงมา ภาคใต้ร้อยละ 92.7 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 91.8 ภาคกลางและภาคตะวันออกร้อยละ 82.4 และเป็นที่สังเกตว่าคนกรุงเทพฯ กลับมีความมุ่งมั่นที่จะไปใช้สิทธิน้อยสุด ร้อยละ 59.8 ทั้งที่เป็นกลุ่มเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากที่สุด และกลุ่มที่มุ่งมั่นจะไปใช้สิทธิมากสุดมีอายุช่วง 46-60 ปี

ด้านนายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ประชาชนที่ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 52.6 หรือเกินครึ่ง สนใจการเลือกตั้งครั้งนี้ ตั้งแต่ 8 คะแนนจาก 10 คะแนนขึ้นไป มีเพียงร้อยละ 8.7 เท่านั้นที่สนใจการเลือกตั้งต่ำกว่า 5 คะแนน แต่เป็นที่สังเกตว่าคนกรุงเทพฯ ให้ความสนใจการเลือกตั้งน้อยกว่าภาคอื่น โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ความสนใจเลือกตั้งสูงสุดที่ 7.81 คะแนน และผู้ชายมีความสนใจมากกว่าผู้หญิง ในขณะที่ข้าราชการให้ความสนใจการเลือกตั้งมากสุดที่ ร้อยละ 7.78 

ส่วนช่องทางในการติดตามข่าวสารการเมืองนั้น นายสติธร กล่าวว่า ประชาชนที่ตอบแบบสอบถาม ร้อยละ 57.4 ติดตามข่าวสารการเมืองทางโทรทัศน์ (ฟรีทีวี) มากที่สุด รองลงมาร้อยละ 26 ระบุว่าติดตามทางอินเทอร์เน็ต/โซเซียลมีเดีย ขณะที่ร้อยละ 6.6 ติดตามผ่านการพูดคุยกับคนอื่น ๆ และมีเพียงร้อยละ 3.6 ติดตามทางหนังสือพิมพ์ ส่วนการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง จำนวน ส.ส. ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ พบว่าประชาชน ร้อยละ 61.4 ทราบว่า ส.ส.แบบแบ่งเขตมีจำนวน 350 คน ในขณะที่ประชาชนร้อยละ 67.5 ทราบว่า ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 150 คน


อย่างไรก็ตาม นายวุฒิสาร  กล่าวว่า ผลการสำรวจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพัฒนาการของการรับรู้ของประชาชนมีมากขึ้น ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าจะทำการสำรวจอีก 3 ครั้งก่อนการเลือกตั้ง โดยจะมีการเปิดเวทีเชิญผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยในเรื่องที่อยากเห็นจากพรรคการเมือง เพื่อให้พรรคการเมืองนำสิ่งเหล่านี้ไปทำเป็นนโยบายเพื่อตอบสนองประชาชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชายและเร่งทำคดีเพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมานาน 4 เดือนคดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้แจ้งกับตนว่า คดีนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินคดี ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอน […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย

กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าผ่านแดน

29 มิ.ย.- กองกำลังบูรพา ผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้า ผ่านเข้า-ออก 3 ด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจำกัดเวลา-จำนวนคัน เริ่มวันนี้ (29 มิ.ย.) และให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา 1. ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาตรวจราชการ และประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการควบคุมด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 โดยให้หน่วยงานความมั่นคง ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการการควบคุมชายแดน และที่ประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ให้มีการผ่อนผันให้รถขนส่งสินค้าไทยที่ตกค้าง และรถขนส่งสินค้าตามใบขนสินค้าขาออก หรือใบขนสินค้าผ่านแดน ที่ได้ส่งข้อมูลเข้ามาในระบบคอมพิวเตอร์ของกรมศุลกากร ก่อนวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ข้ามไปยังกัมพูชาและกลับเข้ามายังราชอาณาจักรไทย 2. เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนตามหลักมนุษยธรรม และเพื่อให้การปฏิบัติการควบคุมสอดคล้องกับการดำเนินการตามข้อ 1 กองกำลังบูรพา จึงขอประสานให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้2.1 ให้ผ่านเข้า-ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ได้วันละไม่เกิน […]

นายกฯ นำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว

เพื่อไทย 29 มิ.ย. – โฆษกพรรคเพื่อไทย เผยนายกฯ นำชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว รอหารือที่ประชุมพรรค 3 ก.ค.นี้ หลังมี สส.อีสาน ทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำคัญ ทราบว่าทางทำเนียบรัฐบาลได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ขอให้รอขั้นตอนต่อไปว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ลงมาเมื่อใด ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า สส.ภาคอีสานพรรคเพื่อไทยทวงโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลังผิดหวังจากโผ ครม. นายดนุพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งในการปรับคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ทุกพรรคมีแรงกระเพื่อมหมด ซึ่งแน่นอนว่ามีคนอยากเข้าไปทำงานเป็นเรื่องปกติ โดยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. จะมีการพูดคุยถึงขั้นตอนหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องการเลือกรองประธานสภาฯ คนใหม่ ได้รับแจ้งว่าน่าจะก่อนวันที่ 15 ก.ค. ส่วนพรรคเพื่อไทยจะส่งใครเป็นตัวแทน […]