สำนักข่าวไทย 4 มค. .-การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งวอร์รูม ช่วยเหลือประชาชนพื้นที่เสี่ยง ตลอด24ชม. เตรียมรถปั่นไฟสำรอง กว่า 100 คัน เข้าพื้นที่ฉุกเฉินทันที หากกระแสไฟดับ ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานไฟฟ้าขัดข้อง
นายภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า จากสถานการณ์พายุปาบึก ในพื้นที่ภาคใต้
ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้การสั่งการให้ทีมงานในพื้นที่และกรุงเทพมหานคร เตรียมความพร้อมช่วยเหลือ และตั้งวอร์รูม ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวม 4ศูนย์ คือที่กรุงเทพมหานคร 1ศูนย์ และในพื้นที่อีก3ศูนย์ ประกอบด้วย จ.เพชรบุรี ดูแลภาคใต้ตอนบน จ.นครศรีธรรมราช ดูแลภาคใต้ตอนกลาง และจ.ยะลา ดูและภาคใต้ตอนล่าง เบื้องต้น ได้สั่งให้เตรียมรถ บุคคลากร และอุปกรณ์ซ่อมบำรุงหากการชำรุดเสียหาย กระทบต่อการจ่ายกระแสไฟให้กับประชาชน นอกจากนี้เตรียมรถปั่นไฟ หรือ รถโมบายเจนเนอเรเตอร์ จำนวน40 คัน พร้อมเดินทางไปจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราวในพื้นที่ฉุกเฉินภายใน24ชม. หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ และเตรียมรถปั่นไฟอีก80คัน ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมเดินทางเข้าพื้นที่ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง ล่าสุดจากการตรวจสอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่ภาคใต้ ยังไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้จากการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พื้นที่เสี่ยง อย่าง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำเริ่มท่วมขัง แต่ระบบจ่ายไฟยังไม่มีผลกระทบ ยังดำเนินการได้ปกติ แต่ที่เป็นห่วง คือ อ.ปากพนัง อ.หัวไซ และอำเภอเมือง ท่าศาลา และสิชล ส่วนในพื้นที่อื่นก็เฝ้าระวัง เช่น อ.เกาะสมุย เกาะพะงัน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รวมถึง ทางอ.สทิงพระ อ.ระโนด จ.สงขลา สั่งทีมงานเตรียมพร้อมตลอด24ชม. หากพายุขึ้นฝั่งในช่วงเย็นวันนี้ที่อ.ปากพนัง ตามที่คาดการณ์ไว้ มีการเตรียมการไว้แล้วเพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบขาดกระแสไฟฟ้า มั่นใจว่า หากเกิดเสาไฟฟ้าล้ม ไฟจะไม่ดับทั้งอำเภอ แต่จะกินพื้นที่ไม่เกิน1ตำบล โดยจะส่งทีมเข้าไปยังจุดเกิดเหตุทันที ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่เสี่ยง ตรวจสอบเครื่องปั่นไฟสำรอง หากโรงพยาบาลใดไม่เพียงพอ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพร้อมสนับสนุนทันที
อย่างไรก็ตามฝากเตือนประชาชน ขอให้ประเมินระดับน้ำ โดยยกปลั๊กไฟและสวิตไฟขึ้นสูง หรือ ปลดวงจรการจ่ายไฟ หลีกเลี่ยงการจับต้องอุปกรณ์ไฟฟ้า สัมผัสเสาไฟ อาจถูกไฟฟ้าดูด หากพบเห็นสายไฟห้อยขาดอย่างเข้าใกล้เด็ดขาดเนื่องจากอาจมีกระแสไฟอยู่ ขอให้แจ้งทางสายด่วน 1129 หรือ แจ้งไปยังสำนักงานการไฟฟ้า เพื่อดำเนินการตัดจ่ายกระแสไฟ.-สำนักข่าวไทย
