กรุงเทพฯ 31 ธ.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดมกำลังกว่า 7 หมื่นนาย รักษาความปลอดภัยประชาชน ในคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ รวมถึง กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ทั่วประเทศ
เวลา 10.30 น.พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมคอนเฟอเรนซ์ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมทั้งการสวดมนต์ข้ามปี โดยยืนยันว่า ตำรวจมีความพร้อม 100% และใช้กำลังตำรวจกว่า 7 หมื่นนายดูแลความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งในกรุงเทพฯ จะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์ รวม 6 จุด ประกอบด้วย เซ็นทรัลเวิล์ด, เอเชียทีค ,ไอคอนสยาม, ซีดีซี , คิงพาวเวอร์ และถนนข้าวสาร ส่วนต่างจังหวัดมีการจัดงานประมาณ 150 จุด จุดหลักอยู่ที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ,อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา,เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี และจ.ภูเก็ต ซึ่งจะมีนีกท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยอำนวยความสะดวก ดูแลเพื่อไม่ให้เกิดเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ล่อลวง รวมถึงล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมฝากเตือนนักท่องเที่ยวให้ตรวจสอบและดูแลทรัพย์สินของตัวเองก่อนเข้าร่วมงานตามจุดต่างๆ แต่งกายให้รัดกุม หากดื่มแอลกอฮอล์และไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ก็ให้เข้าขอความช่วยเหลือจากตำรวจ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุร้าย
ส่วน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยเช่นกัน มีการเพิ่มความถี่ เพิ่มวงรอบการตรวจตรา เฝ้าระวังเข้มจุดตรวจ จุดสกัด รวมทั้งพื้นที่สัญลักษณ์ ซึ่งกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ยังคงเป็นเวลาเดียวกันกับพื้นที่อื่นๆ
สำหรับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ปีนี้ ยังไม่พบหรือได้รับรายงานว่ามีบ้านเรือนประชาชนที่เข้าร่วมโครงการถูกโจรกรรมทรัพย์สิน ขณะนี้มีประชาชนเข้าร่วมฝากบ้าน 9,500 หลัง สถิติเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 300 หลัง ซึ่งพื้นที่นครบาลมีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากที่สุด รองลงมาเป็นพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ทั้งนี้โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่าง ระบบ คิวอาร์โค้ด โพลิสไอเลิร์ทยู ฯลฯ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตำรวจด้วย พร้อม ฝากไปยังประชาชนที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวหรือพักผ่อนต่างจังหวัด ยังสามารถเข้าร่วมโครงการได้ถึงวันที่ 2 มกราคม 2562 โดยให้ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจในการดูแลทรัพย์สินของประชาชน-.สำนักข่าวไทย