กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.- กสอ. อัด 3
แคมเปญลุยพัฒนาแรงงานวัยเกษียณ นำร่อง
4 งานหัตถกรรมผู้สูงอายุสันกำแพง หวังยกคุณภาพชีวิตกว่าพันราย
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วง 2 – 3
ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านโครงสร้างประชากรอย่างชัดเจน
ซึ่งในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ทั้งจำนวน
และสัดส่วนของผู้สูงอายุมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากกรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุขได้มีการคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2564
ประชากรผู้สูงอายุในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอีก 5.6
ล้านคน (จากเดิมในปี พ.ศ. 2560 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 10
ล้านคน)
ซึ่งการเพิ่มจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจะส่งผลกระทบทางด้านสุขภาพ
เศรษฐกิจ และการพัฒนาสังคมโดยรวม ดังนั้น ขณะนี้หลาย ๆ ภาคส่วน จึงต้องมีการกำหนดมาตรการและการวางแผนในการยกระดับกลุ่มประชากรดังกล่าวให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศอย่างรัดกุม
นายกอบชัย กล่าวต่อว่า กล่าวต่อว่า
ภายใต้การดำเนินงานของ กสอ.
ได้เล็งเห็นว่าจำนวนผู้สูงอายุในกลุ่มผู้ใช้แรงงานของภาคอุตสาหกรรมในปัจจุบันนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก
และยังสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมไปถึงการสร้างงานและอาชีพเสริมให้กับผู้สูงวัยในภาคการผลิตที่จะกลับสู่ชุมชน
ซึ่งจะทำให้คนเหล่านี้อยู่ได้โดยไม่รู้สึกว่าตนเองเป็นภาระลูกหลาน ดังนั้น
ล่าสุดจึงได้เริ่มวางกลไกการพัฒนาระบบการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุเชิงระบบที่ในอนาคตจำเป็นจะต้องเน้นการสร้างความยั่งยืนของระบบสวัสดิการ
หลักประกันในด้านรายได้ รวมถึงโอกาสต่าง ๆ
ที่กลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่วัยเกษียณควรจะได้รับ ซึ่งได้วางแนวทางไว้ 3
ด้านประกอบด้วย
ความรู้ความสามารถจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
และพัฒนาศักยภาพด้านการผลิตสินค้าจากชุมชนที่เป็นอัตลักษณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการกระจายรายทั้งผู้สูงอายุและภายในชุมชน
ซึ่งกรมฯ ได้มีการดำเนินงานผ่านโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative
Industry Village: CIV) ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสามารถเติบโตได้ด้วยตนเอง
ส่งผลให้เศรษฐกิจฐานรากมีความแข็งแกร่งและยั่งยืน
การส่งเสริมเอสเอ็มอีวัยเกษียณ โดยเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับแรงงานสูงวัย
เพื่อก้าวสู่ การเป็นผู้ประกอบการใหม่วัยเกษียณ
โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้เกษียณอายุ ในช่วงอายุ 55-60 ปี
ที่มีความตั้งใจเป็นเจ้าของธุรกิจ
ให้สามารถเขียนโมเดลธุรกิจและแผนประกอบกิจการอย่างง่าย
เพื่อขอรับเงินทุนและการยื่นคำขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพื่อให้ SMEs
ในกลุ่มนี้มีขีดความสามารถ
ทางธุรกิจ ทั้งในด้านการผลิตสินค้าและการบริการ
ส่งเสริมด้านเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับผู้สูงอายุบางส่วนที่ต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจในวัยเกษียณ กสอ.
จึงเตรียมความพร้อมด้านเงินทุนหมุนเวียนโดยเฉพาะด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมไทย และหัตถกรรมไทย วงเงินให้กู้ต่อรายไม่เกิน 2 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ยคงที่เพียงร้อยละ 4 อีกทั้งนี้
ต้องเป็นทายาทของผู้เกษียณและเข้าหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้กู้ จึงสามารถยื่นกู้ได้
นายกอบชัย
กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน ภายใต้การดำเนินงาน
ของ กสอ.
ยังได้นำร่องสำรวจความต้องการในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุใน
ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีประชากรผู้สูงอายุจาก 10 หมู่บ้าน
จำนวน 1,857 คน ร่วมกันกับ กสอ. คิดค้นหลักสูตร ที่มีความเหมาะสมและเกิดจากความต้องการของกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่
รวมถึงสอดกับความต้องการของตลาด ภายใต้โครงการ “การส่งเสริมการผลิตสินค้าหัตถกรรมชุมชนเพื่อเพิ่มทักษะและรายได้สำหรับผู้สูงอายุ”
ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มทำการฝึกอาชีพและเพิ่มทักษะการผลิตสินค้าหัตถกรรม
4 สาขา ได้แก่ การทำโคมยี่เป็ง การทำตุง 12
ราศี
การประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์จากกระดาษสา และการทำไม้กวาดทางมะพร้าว ทั้งนี้
การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว เป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการมีงาน
มีอาชีพของประชากรกลุ่มต่าง ๆ ให้สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งคาดว่าผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ
จะสามารถนำทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับไปสร้างรายได้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
.- สำนักข่าวไทย
