กรุงเทพฯ 29 ธ.ค.- ผบช.สตม.สั่ง ตม.สนามบิน เปิดแผนรับนักท่องเที่ยว แจก สคส.บิ๊กโจ๊ก พร้อมจัดธีมนางฟ้าชุดไทย กล่อมดนตรีไทย ต่างชาติชื่นชม ยอดพุ่งวันแรก 1.5 แสน
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะโฆษก บก.ตม.2 เปิดเผยว่า พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2 ได้เปิดแผนปีใหม่ ตามสั่งการ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. โดยเริ่มการปฏิบัติตั้งแต่ 21 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา และจะปฏิบัติต่อเนื่องถึง 3 มกราคม 2562 ซึ่งเน้นการปฏิบัติสำคัญ โดยเฉพาะมาตรการเสริมกำลังพลให้เต็มทุกช่องตรวจในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น โดยห้ามเจ้าหน้าที่ขาดลา และบูรณาการกำลังจากทุกฝ่ายเข้าอำนวยความสะดวกในการตรวจผู้โดยสาร ซึ่งคาดว่า จะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงปีใหม่ 2560 อันเนื่องจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการฟรีค่าธรรมเนียม Visa on Arrival และมาตรการอื่นๆ โดยพบว่า วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นช่วงต้นเทศกาลปีใหม่ มียอดผู้โดยสารเดินทางเข้าออกทาง ด่าน ตม.สุวรรณภูมิ สูงถึง 157,000 คน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2560 มีตัวเลขที่ 145,000 คน โดยในช่วงเที่ยวบินหนาแน่น จะมีผู้โดยสารสะสมจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ระดมสรรพกำลังเข้าประจำช่องตรวจเพื่อเร่งระบายอย่างเต็มที่ เพื่อคัดกรองตามมาตรการความมั่นคง ไม่ให้มีชาวต่างชาติฉวยโอกาสแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวปะปนเข้าก่อเหตุในประเทศ ตามที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้เน้นย้ำไว้มาตลอด
และที่เรียกเสียงฮือฮา จากนักท่องเที่ยว คือ การได้ร่วมถ่ายรูปกับ ทีมงาน ตม.7 นางฟ้า ซึ่งชำนาญภาษาต่างๆ แต่งกายชุดไทย คอยต้อนรับ มอบ ส.ค.ส.จาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.เป็นที่ระลึก พร้อมขนมไทยอร่อยๆ ให้ชิม ท่ามกลางเสียงดนตรีไทยบรรเลง สร้างบรรยากาศ ระหว่างรอรับการตรวจหนังสือเดินทาง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ ตม.ไทย ในฐานะ ประตูหลักของประเทศ ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกในนามคนไทยทุกคน และจะจัดต่อเนื่องจนเสร็จสิ้นแผนปีใหม่
ในโอกาสนี้ ถือโอกาส ประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางใช้บริการ โดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ต้องเผื่อเวลาอย่างน้อย 3 ชม. สำหรับการจราจรที่หนาแน่น และการ check-in ของสายการบิน รวมถึงการตรวจสัมภาระของฝ่ายรักษาความปลอดภัยการท่าฯ ตามมาตรฐานสากล ก่อนเข้าช่องตรวจหน้งสือเดินทาง และกรุณาเตรียมหนังสือเดินทางอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน บัตรที่นั่งต่างๆให้เรียบร้อย เพื่อความสะดวกในการเข้ากระบวนการผ่านแดนไม่ให้ล่าช้าต่อไป.-สำนักข่าวไทย