เมืองทองธานี 27 ธ.ค.-ผู้สมัครเปิดโปงซื้อเสียงเลือก ส.ว. หัวละ 20,000 บาท โทรล็อบบี้รายหัว มีตัวใหญ่อยู่เบื้องหลัง ชี้ระบบเลือกอ่อนแอ เสียดายเงินจัดเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 ธ.ค.) การคัดเลือก ส.ว.ในรอบสุดท้ายในระดับประเทศ มีความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง มีผู้สมัครร้องคัดค้านเพราะเชื่อว่ามีการซื้อเสียงเกิดขึ้น โดยระหว่างที่กลุ่ม 4 นับคะแนนใกล้เสร็จสิ้น นายบุญยืน ขาวปากช่อง ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่มที่ 4 จังหวัดชุมพร ลุกขึ้นโวยวายและร้องคัดค้านผลการคัดเลือก เจ้าหน้าที่จึงเข้ามาบันทึกคำร้องไว้ ทำให้การคัดเลือกกลุ่มดังกล่าวเสร็จสิ้นเป็นกลุ่มสุดท้าย
นายบุญยืน เปิดเผยว่า ก่อนจะมีการคัดเลือก ส.ว. มีโทรศัพท์เข้ามาหาตนเสนอเงินให้ ซึ่งตนไม่รับและบอกว่าเสียงละล้านตนก็ไม่ขาย แต่เมื่อตรวจสอบหมายโทรศัพท์จากสมุดข้อมูลเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัคร ส.ว.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มอบให้ กลับไม่มีหมายเลขดังกล่าว
“เป็นการซื้อเสียง เพื่อไม่ให้ถึงตัวเอง ทุกอย่างโกงกันหมด การซื้อเสียงซื้อได้ในระดับประเทศ ถ้าซื้อระดับจังหวัดซื้อไม่ได้ ที่เขากล้าซื้อเพราะมีตัวใหญ่ ๆ อยู่ข้างหลัง คอยชี้ไว้อยู่แล้ว ถ้าเข้าไปได้ก็ได้แน่นอน ผมมาอยู่ที่ กทม.วันที่ 25 ธันวาคมแล้วมีคนโทรมาหาเมื่อคืนวันที่ 26 ธันวาคม โทรมาบอกว่าจะให้เสียงละ 2 หมื่น ผมบอกว่าเสียงละล้านผมก็ไม่ขาย ได้ไม่ได้ตรงนี้ผมก็ไม่ว่า เขาไม่ได้บอกชื่อ หรือบางทีเขาก็บอก แต่เราจำไม่ได้ เพราะว่าผมหูร้อน บางคนจะออกค่าเครื่องให้ด้วยซ้ำไป และไม่ได้บอกเบอร์ เพราะไม่อยู่ในขั้นตอนที่จะซื้อผมได้ ในเมื่อซื้อไม่ได้ก็ต้องจบ” นายบุญยืน กล่าว
ขณะที่นายเขศักดิ์ สุดสวาท ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่ม 4 จากจังหวัดยโสธร กล่าวว่า วิธีการที่มาของคะแนนมีพิรุธว่าอาจมีการซื้อเสียง เพราะเกษตรกรที่รู้จักกันแค่ 1-2 วัน แต่คะแนนโดด มีทั้ง 48 คะแนน , 20 คะแนน กรณีของตนมีการโทรประสานแลกคะแนน ทั้งนี้คงไม่มีการฟ้องร้องอะไร แต่ถ้าระบบเป็นแบบนี้การจัดเลือกตั้งอ่อนแอ บ้านเมืองก็อ่อนแอ เสียดายเงินเป็นพันล้านที่ใช้จัดเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย
