กรุงเทพฯ 27 ธ.ค.-วันนอร์เปิดสัมมนาติวเข้มกฎหมายเลือกตั้งให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 50 เขตภาคใต้ ตั้งเป้ากวาดเก้าอี้ส.ส.ใต้ไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่ง
พรรคประชาชาติจัดการประชุมสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตภาคใต้ ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอัลมีรอซ กรุงเทพฯ โดยมีว่าที่ผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ 50 คนเข้าร่วมประชุม โดยก่อนร่วมประชุมทางพรรคได้มอบเสื้อแจ็กเก็ตให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.และถ่ายรูปติดบัตร
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตั้งเป้าว่าจะได้รับเลือกตั้งส.ส.ในภาคใต้ไม่น้อยกว่า 10 ที่นั่ง และตั้งเป้ารวมทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 20 ที่นั่ง โดยพื้นที่ที่ตั้งเป้าหมายสูงคือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล แม้ว่าจะมีคู่แข่งจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชาติพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้
“ยุทธศาสตร์สำคัญในการหาเสียงคือนโยบายที่โดดเด่น โดยเฉพาะเรื่องสังคมพหุวัฒนธรรมที่จะสร้างสังคมให้มีความสงบสุขท่ามกลางความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีศักดิ์ศรี เคารพ และให้เกียรติการอยู่ร่วมกันในสังคม ส่วนความพร้อมด้านการเลือกตั้ง ขณะนี้พรรคประชาชาติพร้อมส่งผู้ลงสมัครส.ส.แบบเขตทั้งหมด ลำดับต่อไปจะสรรหาผู้ลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ ส่วนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะมีความชัดเจนวันที่ 14 มกราคม 2562” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พรรคประชาชาติร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายประชาธิปไตยและเผด็จการได้หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ต้องดูที่นโยบายว่าจะทำให้ประเทศดีขึ้นได้มากน้อยเพียงใด แก้ปัญหาเศรษกิจ สังคม และกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมได้หรือไม่
ด้านนายนัจมุดดีน อูมา โฆษกพรรคประชาชาติ กล่าวว่า การประชุมสัมมนาในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ว่าที่ผู้สมัครส.ส.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และแนวทางปฏิบัติในการหาเสียงให้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยเชิญเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มาให้ความรู้ โดยวันนี้ประชุมผู้สมัครส.ส.กลุ่มภาคใต้เป็นกลุ่มแรก จากนั้นจะกำหนดจัดการประชุมในภูมิภาคอื่น ๆ ต่อไป โดยพื้นที่ภาคใต้มีผู้สมัครครบทั้ง 50 เขต ล้วนเป็นบุคคลมากความสามารถและมีศักยภา พสูงที่พร้อมทำหน้าที่แทนประชาชน และมุ่งหวังจะได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย
