แม่โพสต์ลูกชายขี่ จยย.หนีด่านล้มกะโหลกร้าว เลือดคั่ง ยังถูกจับขังคุกหวิดดับ

อุบลราชธานี 27 ธ.ค. – เมื่อวานนี้ (26 ธ.ค.61) ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานี เข้าพบนางหนูเจน ส่งสุข อายุ 39 ปี ประกอบกิจการโรงงานเฟอร์นิเจอร์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งโพสต์เฟซบุ๊กขอความเป็นธรรมกรณีนายสุรสิทธิ์ สุขทอง อายุ 16 ปี บุตรชายที่ขับรถจักรยานยนต์หนีด่านตรวจแล้วประสบอุบัติเหตุรถล้มจนกะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดคั่งในสมอง แต่ยังนำตัวบุตรชายไปคุมขังแทนส่งให้แพทย์รักษาตามหลักปฏิบัติ เมื่อผู้ต้องหามีอาการเจ็บป่วย ต้องส่งตัวให้แพทย์ทำการรักษาก่อนนำตัวไปดำเนินคดี


นางหนูเจนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดกับลูกชายว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 22 ธ.ค.61 ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อนรวม 4 คน โดยขี่กันไป 3 คัน เพื่อไปกินเนื้อย่างแถวห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขา อ.เมืองอุบลราชธานี  จนเวลาประมาณ 00.30 น.วันที่ 23 ธ.ค. ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านมาตามถนนเลี่ยงเมือง มีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองอุบลราชธานี ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าแมคโคร จึงเลี้ยวรถกลับหนีเข้าไปในซอยที่ด้านข้าง เพราะรถของลูกชายเป็นรถใหม่ยังไม่มีป้ายทะเบียน ประกอบกับดื่มเบียร์กับเพื่อนมาด้วย กลัวจะถูกจับกุม แต่เนื่องจากลูกชายไม่เคยมาในเขตอำเภอเมือง ทำให้ไม่รู้เส้นทางขับรถวนไปวนมาจนเจอด่านตรวจหน้าบริษัทเกียรติสุรนนท์ ก่อนถึงสำนักงานขนส่งจังหวัด ถนนเลี่ยงเมือง ลูกชายและเพื่อนอีกคนขี่รถหนีด่านอีก ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านขว้างกระบองถูกหลังเพื่อนลูกชาย และขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมา ส่วนเพื่อนอีกคันที่มาด้วยกันสองคนไม่เห็นด่าน ขี่เข้าไป และถูกจับตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ปริมาณไม่เกินกฎหมายกำหนด 


หลังถูกตำรวจไล่ติดตาม ลูกชายขี่รถหนีมาไกลประมาณ 2 กิโลเมตร แต่รถเสียหลักล้มลงข้างถนนชยางกรู หน้าโรงพยาบาลราชเวช ทำให้ศีรษะฟาดพื้นรุนแรงจนมึนงง ตามแขนขามีรอยถลอก ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่พยาบาลของโรงพยาบาลที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยเหลือ และบอกให้ติดต่อผู้ปกครอง แต่ลูกชายเริ่มไม่รู้เรื่อง จำอะไรไม่ได้ จึงถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปควบคุมไว้ในห้องขัง สภ.เมืองอุบลราชธานี กระทั่งเกือบรุ่งเช้า เจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ไปดูลูกชายที่ถูกควบคุมตัว เพราะอาเจียนเป็นเลือดหลายครั้ง เมื่อไปถึงได้พูดคุยกับลูกชาย พบว่ามีอาการง่วงซึม อยากจะนอนอย่างเดียว จึงขออนุญาตนำตัวลูกชายไปหาหมอให้ตรวจดูอาการ แต่ตำรวจไม่ยอม อ้างว่าต้องรีบนำตัวส่งไปศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด จนกระทั่งเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ลูกชายอาการไม่ดีขึ้น จึงได้ไปอ้อนวอนขอนำตัวลูกชายไปให้แพทย์โรงพยาบาลเอกชนตรวจ ก่อนนำตัวไปส่งให้ศาล และเมื่อศาลเห็นอาการของลูกชายได้สั่งอนุญาตให้ประกันตัว พร้อมส่งตัวกลับไปหาแพทย์ตรวจดูอาการ และได้รับแจ้งว่าลูกชายกะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดคั่งในสมองจากรถล้ม ต้องผ่าตัดทันที ไม่เช่นนั้นอาจเสียชีวิตได้ โดยเมื่อวานนี้ลูกชายรู้สึกตัวแล้ว แต่ยังต้องนอนพักรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก

นางหนูเจนเล่าอีกว่า ระหว่างขอนำรถที่เกิดอุบัติเหตุกลับบ้าน มีผู้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่มาขอเงิน 10,000 บาท แลกกับการปล่อยรถ และได้ต่อรองเหลือ 8,000 บาท จึงได้รถจักรยานยนต์กลับมา ด้วยความสงสัยจึงได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวให้สังคมรับทราบถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งควรมีดุลยพินิจมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นลูกชายของตนก็อาจเสียชีวิตไปแล้วก็ได้ 


ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวถึงข้อสงสัยของแม่วัยรุ่นคนดังกล่าวว่า สำหรับเงิน 8,000 บาท ที่เรียกเก็บ เป็นเงินค่าประกันของกลางแทนการยึดเอารถที่ใช้ก่อเหตุไว้ หลังจากนี้จะทำความเข้าใจผู้ปกครองให้เกิดความเข้าใจในเรื่องคดี หากยังมีข้อสงสัย ยินดีตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนขั้นตอนการทำงาน. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]