กรุงเทพฯ 26 ธ.ค. – ธนาคารกรุงศรีคาดการใช้จ่ายภายในประเทศ หนุนเศรษฐกิจปี 62 โตต่อเนื่องร้อยละ 4.1 ใกล้เคียงกับปีนี้
นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การใช้จ่ายภายในประเทศจะมีความสำคัญมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มเข้าสู่วัฏจักรขาขึ้น หลังจากอัตราใช้กำลังการผลิตของหลายกลุ่มอุตสาหกรรมแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี รวมทั้งมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP fast track) และการเดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 281,000 ล้านบาทในปี 2562 เพิ่มขึ้นจาก 98,000 ล้านบาทในปี 2561 ผนวกกับปัจจัยบวกจากการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ส่วนหนึ่งได้อานิสงส์จากการย้ายฐานการลงทุนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
นายสมประวิณ กล่าวว่า การบริโภคภาคเอกชน คาดว่าจะมีแรงส่งต่อเนื่องตามการกระเตื้องของรายได้ภาคเกษตร รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและการจ้างงานนอกภาคเกษตร นอกจากนี้ การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ และการเพิ่มงบประมาณในส่วนของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเจาะจงเฉพาะกลุ่มเป็นสำคัญ เช่น กลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จะช่วยหนุนให้การบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเพิ่มขึ้น
สำหรับภาคส่งออกที่เคยเติบโตสูงติดต่อกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มเติบโตในอัตราชะลอลงที่ร้อยละ 4.5 ในปี 2562 ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผ่านพ้นจุดสูงสุดมาแล้ว และผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน อย่างไรก็ตาม ภาคส่งออกของไทยอาจได้รับผลเชิงบวกจากการค้ากับหลายประเทศในเอเชีย ซึ่งเศรษฐกิจกำลังเติบโตในอัตราสูง ด้านการท่องเที่ยวคาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงปลายปีนี้ ภายหลังทางการออกมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำวีซ่า หรือ Visa on Arrival (VOA) ให้กับนักท่องเที่ยว 21 ประเทศ รวมทั้งจีนและอินเดีย ประกอบกับการขยายตัวของชนชั้นกลางโดยเฉพาะในเอเชียและการพัฒนาศักยภาพของสนามบิน เพื่อให้รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น
“คาดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2562 ยังคงเติบโตต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับร้อยละ 4.3 ในปี 2561 และเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงหลังวิกฤติการเงินโลกที่ร้อยละ 3.8 โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากแรงส่งการเติบโตของการบริโภคภาคเอกชนและการเร่งตัวของการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยชดเชยการชะลอตัวของอุปสงค์จากต่างประเทศ รวมทั้งความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจภายหลังการเลือกตั้งคาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ” นายสมประวิณ กล่าว
ทั้งนี้ จากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป คาดว่าจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.5 ในปี 2562 จากร้อยละ 1.1 ในปี 2561 ทั้งนี้ วิจัยกรุงศรีประเมินว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้กลับเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้น โดยคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งสู่ระดับร้อยละ 2.00 เดือนมีนาคม 2562 หลังจากล่าสุดปรับขึ้นเป็นร้อยละ 1.75 ในเดือนธันวาคม 2561 เพื่อเป็นการป้องกันการสะสมความเสี่ยงที่มีต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย