ทำเนียบรัฐบาล 26 ธ.ค.-นายกฯ มอบโล่ประกาศเกียรติคุณสุดยอดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ปี2561 ชื่นชมเป็นแบบอย่างสร้างคุณค่าที่ดีแก่สังคม ขอสร้างปรองดอง บนพื้นฐานหลักคิดและหลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณสุดยอดวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งปี พ.ศ. 2561 จำนวน 32 โล่รางวัล ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์เหตุการณ์สำคัญและบุคคลนำมาซึ่งชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของประเทศไทย และเป็นแบบอย่างในการสร้างคุณค่าที่ดีให้แก่สังคม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับผู้ได้รับรางวัล และขอให้ทุกคนคงความดีที่ทำไว้ตลอดไป เพราะทุกรางวัลที่ได้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมทำความดีและสืบสานความเป็นไทย ซึ่งการทำความดีทุกรูปแบบที่ได้รับรางวัลต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่ทุกคนสามารถทำได้และสามารถสร้างประโยชน์ให้สังคมในวงกว้างได้ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญการส่งเสริมคุ้มครองรักษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาติ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจภาษาไทยแก่คนรุ่นหลัง
“ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความรัก ความหวงแหนสถาบันชาติที่บรรพบุรุษรักษาไว้ให้ ทุกคนต้องร่วมกันสืบสานและสร้างประวัติศสตร์ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน ที่สำคัญทุกคนจะต้องมีจิตสำนึกที่จะทำเพื่อส่วนรวมเพื่อประเทศชาติ เป็นการสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานโครงการจิตอาสาทำความดี ด้วยหัวใจ ขอให้ทุกคนร่วมสร้างประเทศที่อบอุ่น มีความรักความปรองดอง สิ่งเหล่านี้จะเกิดได้ต้องมาจากทุกคนในประเทศ บนพื้นฐานของหลักคิดที่ถูกต้อง หลักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง จึงต้องช่วยกัน ไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เกิดขึ้นในปัจจุบันและแนวคิด ทุกคนจะต้องเรียนรู้ และสร้างประวัติศาสตร์ที่ดีร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกคนต้องรู้จัก you get what you pay ถ้าไม่ให้อะไรเลย ไม่ทำอะไรเลยก็จะไม่มีวันได้อะไรกลับมา ทุกคนต้องรู้จักคำนี้ และขณะนี้ต้องระมัดระวังการพูดจาในฐานะนายกรัฐมนตรี แต่ในฐานะหัวหน้าคสช.จะต้องดูแลความสงบเรียบร้อย
“วันนี้ขออนุญาตพูดภาษาอังกฤษนิดหนึ่ง ถึงจะไม่เก่งก็ตามอย่างที่เขาว่ากัน ผมเห็นเวลาไปไหนเขาก็หัวเราะผมทุกประเทศ ผู้นำก็คุยกับเค้ารู้เรื่อง เซ็นสัญญาอะไรก็เยอะแยะไปหมด ผมไม่เห็นจำเป็นต้องเก่งมากขนาดเขา เขาเก่งแค่ไหนผมก็ไม่รู้ เนี่ยนอกกรอบ เดี๋ยวก็หาเรื่องอีก ต้องระมัดระวังการพูดจาของนายกรัฐมนตรีด้วย แต่อย่าลืมผมเป็นหัวหน้าคสช. ด้วย เพราะฉะนั้นถ้าร้าย ๆ หัวหน้าคสช.ก็ ..(เงียบไป) เพราะไม่เช่นนั้นก็ไม่สงบอย่างทุกวันนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาปัจจัยที่ทำให้ประเทศเดินหน้าได้คือความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงต้องมาก่อนเสมอทั้งความมั่นคงในประเทศ ความมั่นคงทางทรัพยากร ซึ่งต้องมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเป็นคนดูแลเรื่องทางความมั่นคง ส่วนเรื่องการเกณฑ์ทหาร ในหลักการไม่ได้เกณฑ์ทหารทั้งหมด เพราะในบางพื้นที่มีคนสมัครเข้ามาเข้ามาเต็มจำนวนที่ต้องการ ทหารทุกคนมีสวัสดิการ อยากให้คิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ
“ถ้าใครมีความคิดต่างจากผมก็ไม่เป็นไร หลายอย่างถ้าคนไทยไม่รู้จักหน้าที่ คำนึงถึงแต่สิทธิเสรีภาพ ไม่เคารพกฎหมาย ถือว่าไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผมทำงานด้วยกฎหมาย แม้จะมีคนกล่าวหาอะไรมากมาย แต่ถ้าถูกกฎหมายก็ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ใครทำอะไรก็ต้องถูกสอบสวนดำเนินคดี ยืนยันไม่เคยไปก้าวล่วงอะไรทั้งสิ้น เพราะถ้าไปก้าวล่วงคงจะสั่งติดคุกได้ทุกวัน ซึ่งที่ผ่านมาผมตนไม่เคยสั่งจำคุกใคร” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวฝากผู้จัดละครว่าจะสร้างละครไทยสักเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น ละครประเทศไทย ในมุมของคนไทยว่าจะเดินหน้าไปอย่างไร เพื่อปัจจุบันและอนาคต หากมีปัญหาอะไรสามารถปรึกษากับตนได้ เพราะสามารถช่วยเขียนเค้าโครง เรื่องราวต่าง ๆ ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสุดยอดวัฒนธรรมสร้างสรรค์แห่งปีพ.ศ.2561 แบ่งเป็น 6 สาขา รวมทั้งสิ้น 32 รางวัล ดังนี้ 1. สาขาบุคคลแห่งปี อาทิ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) นายเฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ นายณรงค์ศักดิ์โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ผู้อำนวยการศูนย์ร่วมค้นหาผู้สูญหายที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน และนายอาทิวราห์ คงมาลัย (ตูน บอดี้สแลม) ศิลปินนักร้อง ที่วิ่งระดมทุนโครงการก้าวคนละก้าวและน.ตสมาน กุนัน (จ่าแซม) ผู้เสียสละชีวิตจากการช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
2.สาขาสปอตสร้างสรรค์ อาทิ ตราบาปแห่งการสูญเสีย ไขมันเริ่มสลาย เมื่อออกกำลังกายต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป และเลิกเหล้าแล้วรวย 3.สาขาคลิปวีดีโอสร้างสรรค์แห่งปี อาทิ เพราะอัลไซเมอร์ไม่ใช่แค่ความจำเสื่อม กตัญญู..คุณค่าของคนวัดกันที่อะไร 4.สาขาละครโทรทัศน์สร้างสรรค์แห่งปี อาทิ บุพเพสันนิวาส ริมฝั่งน้ำและศรีอโยธยา 5.สาขาภาพยนตร์ไทยสร้างสรรค์แห่งปี อาทิ นาคี 2 9 ศาสตราและ 2215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว 6.สาขาเหตุการณ์สำคัญแห่งปี ได้แก่ ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียนโขนไทยเป็นมรดกวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ยูเนสโกประกาศให้ฟิล์มกระจกเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก จากฟิล์มกระจกชุดหอพระสมุดวชิรญาณ และปฏิบัติการถ้ำหลวง:บันทึกวาระแห่งโลก.-สำนักข่าวไทย
