ธอส.คาดยอดจองสินเชื่อบ้านล้านหลังทะลุ 100,000 ล้านบาท

ธอส.สำนักงานใหญ่ 23 ธ.ค.-ธอส.ประเมินว่า ยอดขอสินเชื่อตามโครงการบ้านล้านหลัง เมื่อรับผู้มาขอจองสิทธิครบทุกคนจะสูงทะลุ  100,000 ล้านบาทจากเป้าหมายตั้งไว้ 50,000 ล้านบาทที่เต็มตั้งแต่ครึ่งวันแรก  จึงเตรียมเสนอรัฐบาลให้ชดเชยดอกเบี้ยเพิ่มภายใต้เงื่อนไขใกล้เคียงกลุ่มแรกเพื่อให้คนไทยทุกกลุ่มมีบ้านอยู่อาศัย 


นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) เปิดเผยว่า สินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังที่ธอส.เปิดให้จองสิทธิในวันนี้(23 ธ.ค.61) วันเดียวในวงเงินรวม 50,000 ล้านบาทได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก ณ เวลา 13.03 น. ยอดจองสิทธิ์ทั่วประเทศอยู่ที่ 50,043 ราย หรือคิดเป็นยอดขอสินเชื่อประมาณ 50,000 ล้านบาทเต็มกรอบวงเงินที่กำหนดไว้แล้ว โดยคาดว่า ตลอดวันนี้ ซึ่งธอส.จะรับจองสิทธิทั้งหมดจากทุกคนที่มาติดต่อธนาคาร โดยยอด ณ เวลา 16.00 น. มียอดรวม 92,000 ล้านบาท จึงคาดว่า ยอดจองสิทธ์สินเชื่อบ้านในภาพรวมจะทะลุ 100,000 ล้านบาท 

 สำหรับกลุ่มแรกที่ยื่นจองสิทธิ์วันนี้  การพิจารณาสินเชื่อจะเสร็จภายใน 2 เดือน หรือประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะพิจารณาได้ครบถ้วนต่อไป  สำหรับสินเชื่อวงเงิน 50,000 ล้านบาทแรกนี้  รัฐบาลช่วยชดเชยภาระดอกเบี้ย  3,800 ล้านบาท  ส่วนการขยายเปิดวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรนเพิ่มเติมอีก อีก 50,000 ล้านบาท ธอส.จะเสนอรัฐบาลพิจารณาชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารเหมือนกับโครงการบ้านล้านหลัง และยอมรับว่าอาจแตกต่างกันเนื่องจากดอกเบี้ยสูงขึ้นเล็กน้อย  


สำหรับการดำเนินการเปิดให้ประชาชนจองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี นานสูงสุดถึง 5 ปีแรก ในวันนี้ วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 61 วันเดียว ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.   สูงเกินเป้าหมายอย่างมาก  ผู้จองสิทธิด้วยตัวเอง แสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง กับเจ้าหน้าที่เสร็จจะได้รับ SMS แจ้งสิทธิ์  เจ้าหน้าที่จะใช้เวลาประเมินคุณสมบัติผู้กู้ภายใน 15 วัน  จากนั้น ผู้ขอสินเชื่อนำหลักฐานมายื่นขอสินเชื่อในวันที่ 2 มกราคม 2562 เป็นต้นไป และธอส. เตรียมประกาศรายชื่อผู้ยื่นอจองสิทธิ์งวดเเรกวงเงิน 30,000 ราย ในวันที่ 25 ธันวาคมนี้จากนั้นจะพิจารณาภายใน 90 วัน จากนั้น จะเรียกกลุ่มต่อไปเพิ่มเติม

โครงการบ้านล้านหลัง ที่มีวงเงินทั้งหมด 50,000 ล้านบาท  เงินสินเชื่อจะอนุมัติให้ประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 50,000 คน  เพราะกู้ได้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 25,000 บาทต่อเดือน จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีที่ร้อยละ 3 ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 5 ปีแรก เริ่มต้นเพียง 3,800 บาท พร้อมฟรีค่าธรรมเนียมทั้งหมด หากรายได้เกิน 25,000 บาทต่อคนต่อเดือน จะได้รับอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 คงที่ร้อยละ 3 ต่อปี เงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระ 3 ปีแรก เริ่มต้นเพียง 3,800 บาท เช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง