เวียงจันทน์ 6 ก.ย.- นายกฯ ชื่นชมบทบาทของผู้แทนไทยใน 3 สมัชชาอาเซียน ขอบคุณฝ่ายนิติบัญญัติไทย ที่ออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ทั้งระดับชาติและอาเซียน ขณะที่ ขอให้ผู้แทนเยาวชนไทย สร้างเครือข่าย เพื่อความสมานฉันท์ที่ยั่งยืน และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน สร้างเครือข่ายทางการค้าการลงทุน เพื่อให้ทุกประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน
มนชนก พัฒนพงศ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยที่ติดตามภารกิจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช
.) เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 และ ครั้งที่ 29 รวมทั้งการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ นครเวียงจันทน์ สาธารณัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน2559 รายงานว่า เวลา 09.30 น. วันนี้ (6 ก.ย.) นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับผู้แทนไทยในสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ซึ่งมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นตัวแทน ผู้แทนเยาวชนอาเซียน และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC)
พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือ ว่า นายกรัฐมนตรีขอบคุณฝ่ายนิติบัญญัติของไทยที่มีความกระตือรือร้นในการออกกฎหมาย และกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เอื้อประโยชน์ทั้งในระดับชาติและอาเซียน พร้อมขอให้ผู้แทน AIPA ช่วยสร้างความตระหนักรู้ด้านกฎระเบียบต่าง ๆ ในอาเซียน ให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และมีส่วนร่วมในประชาคมอาเซียน
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีที่นายอิสรา สุนทรวัฒน์ ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมัชชารัฐสภาอาเซียน คนใหม่ (เริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2562) ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้มีบทบาทในการเร่งผลักดัน และเสนอข้อริเริ่มวาระทางด้านกฎระเบียบ ที่สอดคล้องกันของทุกประเทศอาเซียน เพื่อช่วยขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างประชาคมที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า สำหรับผู้แทนเยาวชนอาเซียน นายกรัฐมนตรียินดีขอใช้โอกาสนี้ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในประชาคมอาเซียน และสร้างเครือข่ายอาสาสมัคร เพื่อส่งเสริมความสมานฉันท์และมิตรภาพที่ยั่งยืนในอาเซียน ขณะที่ รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมเยาวชนสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ผ่านการศึกษาที่ส่งเสริมไอซีที และเศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้ง ทักษะด้านภาษา เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีชื่นชมแนวการทำงานของสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ที่ร่วมมือทำงานเป็นเครือข่ายกับสภาธุรกิจต่างๆ เพื่อเสนอแนวทางที่ดีให้กับอาเซียน และต้องการให้สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนสร้างเครือข่ายทางการค้าการลงทุน เพื่อให้ทุกประเทศเดินหน้าไปด้วยกัน โดยรัฐบาลสนับสนุนให้ภาคเอกชน ใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ จาก AEC อย่างเต็มที่
พล.ต.วีรชน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้ภาคธุรกิจมั่นใจว่า รัฐบาลไทยจะยังคงให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนและการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน ซึ่งถือเป็นกำลังหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและภูมิภาคต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพบปะกับตัวแทนของไทยใน 3 สมัชชาอาเซียนแล้ว นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันระหว่างผู้นำกับนักธุรกิจของ CLMVT ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว .- สำนักข่าวไทย