เด้ง ‘สุภัทร’ นั่งเลขาธิการ สกศ.

สำนักข่าวไทย 4 ธ.ค.-ครม.เห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอ ให้ ‘สุภัทร จำปาทอง’ นั่งเลขาธิการสภาการศึกษา จากเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา คาดปมยูนิเน็ต


นพ.ธีระเกียรติ  เจริญเศรษฐศิลป์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ ศธ.แทนตำแหน่งที่ว่าง 2 ราย คือนายสุภัทร จำปาทอง  เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เป็นเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) นายสนิท แย้มเกษร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นรองเลขาธิการกพฐ. 


สำหรับเหตุผลการโยกย้าย นายสุภัทร เพราะเห็นว่า สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ.) เป็นหน่วยงานสำคัญ ซึ่งต้องการคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับ ทำงานสำคัญ เช่นการปฏิรูปการศึกษา ที่ต้องทำร่วมกับคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.)ได้อย่างดี  ตรงนี้เป็นเหตุผลหลัก 

ส่วนกรณีที่นายสุภัทรถูกตรวจสอบกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาหรือยูนิเน็ตนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง เพราะการสอบสวนต่างๆจะได้ง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเวลาและจังหวะคล้องจองกันพอดี แต่ขอย้ำว่า ไม่ได้ย้ายเพราะนายสุภัทรทำผิดแน่นอน 


“การย้ายครั้งนี้คิดดีแล้ว เรื่องคนผมต้องคิดนานๆ การย้ายนายสุภัทร ไม่ได้หมายความว่านายสุภัทรทำผิดแต่จังหวะคล้องจองกันพอดี และได้ปรึกษากับ นพ.อุดม คชินทร รมช.ศธ.ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)และสกศ. แล้ว อีกทั้งยังได้มีการพูดคุยกันนายสุภัทรแล้ว เป็นการส่วนตัว เป็นการพูดคุยที่เกิดขึ้นก่อนจะมีการตรวจสอบเรื่องยูนิเน็ตค่อนข้างนาน ซึ่งนายสุภัทรก็บอกว่าไปรับตำแหน่งที่ สกศ.ได้ ส่วนจะพอใจหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ผมให้เกียรติคน ทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายซี11 ผมบอกล่วงหน้า ไม่มีครั้งไหนที่ไม่บอก”นพ.ธีระเกียรติกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายนายสุภัทรครั้งนี้เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่งสกอ.ว่างเพื่อเตรียมพร้อมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมด้วยหรือไม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า เป็นจังหวะพอดีมากกว่า ไม่ใช่ว่าตั้งใจไปเปิดทาง เพราะการจัดตั้งกระทรวงใหม่ ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา หากภายใน 1-2 เดือนนี้ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ (สนช.) ก็อาจต้องมีการแต่ตั้งคนดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกอ.ส่วนระหว่างนี้ให้รองเลขาธิการ กกอ. รักษาการไปก่อน  

ส่วนการแต่งตั้งนายสนิท พิจารณาตามขั้นตอนและเป็นที่ยอมรับในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีผลงานให้เห็นปรากฏชัด ไม่ว่าจะเป็นการสอบสวนเรื่องทุจริตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำงานได้รวดเร็ว ส่วนที่เหลือต้องค่อยๆ พิจารณา  

สำหรับการแต่ตั้งรองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(กอศ.)ที่ว่าง อยู่ 2 ตำแหน่งนั้น เดิมมีการเสนอชื่อไว้แล้ว แต่มีประเด็นไม่ชอบมาพากล จึงยังไม่เสนอ จึงให้ไปเคลียร์ ถ้าเคลียร์ไม่ได้ ก็หาคนใหม่ ยุคนี้ไม่ต้องมาวิ่งเต้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง