ทำเนียบ 4 ธ.ค. – นายกฯ ยังไม่ชัดลงพรรคใดแต่สนใจพลังประชารัฐ เพราะเคยร่วม-ทำงานให้รัฐบาล ใช้หลักบารมี10ประกาศ ไม่ยินดียินร้าย หรือดีใจต่อคำชมที่คนเสนอให้นั่งนายกฯ รอปลดล็อกค่อยแจงอนาคต แนะพรรคการเมือง ไม่ร่วม7ธ.ค.ให้คำนึงถึงบ้านเมืองเคารพกติกา
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อประกาศชัดเจน ตนต้องไปชัดเจนกับพรรคด้วยหรือไม่นั้น แต่จนถึงขณะนี้พรรคยังไม่มีการเชิญอย่างเป็นทางการ ตนจึงยังไม่ขอเปิดเผยในความชัดเจนอนาคตทางการเมืองของตนเอง และยังไม่เริ่มเข้าสู่การเลือกตั้ง ทั้งนี้ยอมรับว่าส่วนตัวมีธงอยู่แล้วในการเลือกพรรคการเมือง โดยต้องเป็นพรรคที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าอย่างมียุทธศาสตร์ พร้อมจะชี้แจงอนาคตทางการเมืองหลังปลดล็อกทางการเมืองแล้ว
เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐมีบุคคลที่เคยทำงานในรัฐบาลและเคยทำงานให้กับรัฐบาลนี้ จะอยู่ในข่ายการพิจารณาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา เพราะคนเหล่านี้เคยทำงานร่วมกัน ก็ต้องสนับสนุนพรรคเหล่านี้ ส่วนดีใจหรือไม่ที่มีหลายพรรคการเมืองจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธิ์ กล่าวว่า ตนยึดหลักขันติและบารมี 10 ประการ ไม่ยินดียินร้าย กับคำเยินยอและคำติฉินนินทา โดยตั้งแต่อดีต จนถึงขณะนี้ยังคงยึดหลักเหล่านี้ในการวางตัวมาตลอด
“ที่นักการเมืองเรียกร้องให้ปลดล็อกการเมืองผมก็ไม่เห็นนักการเมืองหรือพรรคการเมือง สนใจเรื่องจะล็อกหรือไม่ล็อก อยู่แล้วเพราะตอนนี้พรรคการเมืองทุกพรรคก็ลงพื้นที่พบปะประชาชน จนหัวจะชนกันอยู่แล้ว แล้วจะมาเรียกร้องให้ปลดล็อก”นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไม่ทำโพล หรือสำรวจความนิยมในตนเอง เพราะประชาชนจะเป็นผู้แสดงออกมาเองและที่ผ่านมาก็มีคนทำอยู่แล้วที่บอกว่าประชาชนเลือกพรรคไหน หรือเลือกคนที่คุ้นเคย เพียงแต่รัฐบาลจะทำให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจในสิ่งที่ถูกต้อง
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเชิญพรรคการเมืองหารือ 7 ธ.ค. ที่พรรคการเมืองใหญ่ปฏิเสธเข้าร่วมว่า ไม่สามารถไปบังคับได้ หากพรรคใดไม่ประสงค์จะมาร่วม แต่การทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองต้องยึดกติกาเหมือนนักมวยที่ก่อนขึ้นชกจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม และดูกติกาให้ชัดเจนเมื่อถึงเวลาก็สามารถจะลงแข่งขันได้ โดยจะมาบอกว่ามีการเปลี่ยนกติกา แล้วจะไม่ยอมรับไม่ได้ เพราะอย่างกีฬาทั่วไปก็ต้องมีการปรับกติกาให้ทันยุคสมัย ดังนั้น อย่ามาเสียเวลาประเทศชาติ.-สำนักข่าวไทย