รร.เบอร์เคลียร์ 30 พ.ย. – กรมสรรพากรเตรียมเสนอ ครม.พิจารณามาตรการช้อปช่วยชาติรอบใหม่สัปดาห์หน้า จำกัดสินค้า 3 กลุ่ม ได้แก่ ยางล้อรถยนต์ หนังสือ และสินค้าโอทอป พร้อมแจงยืนยันใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีประกัน
นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า แม้มาตรการช้อปช่วยชาติครั้งนี้จำกัดประเภทสินค้า แต่กรมฯ เปิดกว้างการใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการให้สิทธิ์หนังสือ และอีบุ๊ค ซึ่งเป็นสินค้าไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่หากซื้อจากร้านค้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ก็สามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ระบุชื่อผู้ซื้อผู้ขายมาขอใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ รวมทั้งสินค้าโอทอปก็ไม่จำเป็นต้องซื้อจากร้านค้าที่จดทะเบียนแวต จึงไม่จำกัดเพียงสินค้าโอทอปในห้างสรรพสินค้าแต่อย่างใด ซึ่งช่วยกระจายรายได้ไปยังชุมชนต่าง ๆ เช่นเดียวกับกรณียางล้อรถยนต์ ผู้ใช้สิทธิ์ต้องขอใบกำกับภาษีและคูปองที่กรมสรรพากร ออกให้ ซึ่งจะกำหนดตัวเลขของกรมฯ และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) 1 เส้นต่อคูปอง 1 ใบ เพื่อช่วยเกษตรกร
ส่วนกรณีบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งเร่งรัดผู้เอาประกันส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามเงื่อนไขการได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีภายในวันพรุ่งนี้ โฆษกกรมสรรพากร กล่าวว่า แม้กรมฯ กำหนดเงื่อนไขผู้เอาประกันที่ต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีประกันสุขภาพ 15,000 บาท ต้องส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ให้บริษัทประกันภัย เพื่อรายงานต่อกรมสรรพากร แต่ในทางปฏิบัติจริงผู้เอาประกันไม่จำเป็นต้องส่งข้อมูลภายในวันพรุ่งนี้ตามที่บริษัทประกันกล่าวอ้าง เนื่องจากระเบียบกรมสรรพากรกำหนดให้บริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทประกันวินาศภัยจะต้องนำส่งข้อมูลเกี่ยวกับเบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ให้แก่กรมสรรพากรภายในวันที่ 7 มกราคมของทุกปี แต่บริษัทสามารถทยอยนำส่งข้อมูลผู้เอาประกันได้ก่อนวันที่ 7 มกราคม 2562 ซึ่งได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ ขอย้ำย้ำว่าการกำหนดให้ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบและคืนภาษีผู้มีเงินได้
ส่วนกระแสวิจารณ์เกี่ยวกับการได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีหลายรายการ ของโรงเรียนนานาชาตินั้น โฆษกกรมสรรพากร ชี้แจงว่า การยกเว้นภาษีนิติบุคคลสำหรับสถานศึกษาเป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการศึกษา
แต่ในพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนปี 2550 กำหนดให้โรงเรียนเอกชน รวมทั้งโรงเรียนนานาชาติต้องแยกการจัดตั้งบริษัทผู้รับใบอนุญาตออกจากตัวโรงเรียน โดยโรงเรียนจะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีดังกล่าว และส่งรายได้ตามสัดส่วนที่กำหนดในกฎหมายเข้าบริษัท แต่บริษัทจะเสียภาษีนิติบุคคล และภาษีที่เกี่ยวข้องตามปกติ ส่วนปัญหาการเสียภาษีกำไรผู้ถือหุ้นของบริษัทเอสไอเอสบี ซึ่งให้บริการโรงเรียนนานาชาตินั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการต้องชี้แจงเอง.-สำนักข่าวไทย