กรุงเทพ ฯ 27 พ.ย. – เผยผลการดำเนินงานของ บจ.ใน mai งวด 9 เดือน ปี 2561 มีกำไรสุทธิรวม 4,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.66 พบ 6 ใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรมมีผลการดำเนินงานดีขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มทรัพยากร
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน mai จำนวน 148 บริษัท คิดเป็นร้อยละ 94 จากทั้งหมด 157 บริษัท นำส่งผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 พบว่า บจ.ที่รายงานผลกำไรสุทธิมีจำนวน 104 บริษัท คิดเป็นร้อยละ 70 ของบริษัทที่นำส่งผลการดำเนินงานทั้งหมด มียอดขายรวม 126,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.10 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ต้นทุนรวม 99,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.82 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 22.21 มาอยู่ที่ ร้อยละ 21.04 อย่างไรก็ดี บจ.ยังคงมีกำไรสุทธิรวม 4,412 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.66 จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปีนี้ ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมมียอดขายเติบโตจากปีก่อนหน้า แม้ว่า บจ.ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนการขายสูงขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม บจ.สามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิรวมเติบโตขึ้นร้อยละ 51.66 โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของกำไรสุทธิโดดเด่น ได้แก่ กลุ่มบริการ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และกลุ่มทรัพยากร ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ประเทศไทยมีศักยภาพการแข่งขันสูง
เมื่อพิจารณาฐานะทางการเงิน บจ. mai มีสินทรัพย์รวม 261,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.45 จากสิ้นปี 2560 ขณะที่โครงสร้างเงินทุนรวมยังอยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 1.10 เท่า เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้วเล็กน้อย
ส่วนไตรมาส 3/2561 บจ.มียอดขายรวม 43,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.01 ต้นทุนรวม 34,301 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.04 ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงร้อยละ 1.44 มาอยู่ที่ร้อยละ 20.43 ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 185.29 จากไตรมาส 3 ปีก่อนหน้า
ปัจจุบันมี บจ.ใน mai 157 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 399.73 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (market capitalization) อยู่ที่ 263,657 ล้านบาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 1,324 ล้านบาทต่อวัน. – สำนักข่าวไทย