นายกฯ เยือนเยอรมนี เน้นความร่วมมือเชื่อมโยงระบบราง

กรุงเทพฯ 27 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. ต่อยอดอุตสาหกรรมและความเชื่อมโยงระดับราง เตรียมร่วมมือพัฒนาระบบอาชีวศึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานไทยให้มีศักยภาพ


พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกหลังจากสหภาพยุโรป หรือ อียู มีข้อมติระหว่างอียูกับประเทศไทย ทำให้ทุกประเทศในอียู สามารถมีปฏิสัมพันธ์และมีการแลกเปลี่ยนในระดับสูงทางด้านการเมืองกับไทยได้อย่างเต็มที่ ไม่มีข้อจำกัด โดยสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นประเทศที่มีความสำคัญกับประเทศไทยในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่มีกันมายาวนานกว่า 156 ปีแล้ว 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ไทยแลนด์ 4.0 อีกทั้งยังเป็นคู่ค้ากับไทยอันดับที่ 3 ของอียู และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของไทยในเวทีโลก ดังนั้น การเดินทางเยือนครั้งนี้ นอกจากจะได้กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีแล้ว นายกรัฐมนตรียังเตรียมหารือข้อราชการกับนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นมากขึ้นในทุกมิติ


พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า การเดินทางครั้งนี้ ยังให้ความสำคัญเรื่องการเรียนรู้นโยบายที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการปฏิรูปอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรัฐบาลตั้งใจจะเรียนรู้เรื่องนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ว่า สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีมีแนวทางการปฏิบัติอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะการวิจัยและการพัฒนา ซึ่งสอดคล้องกับที่รัฐบาลให้ความสำคัญ รวมทั้งแนวทางการส่งเสริมกลไกทางด้านเศรษฐกิจอย่าง SME และการยกระดับอุตสาหกรรมต่างๆ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความร่วมมือสำคัญที่จะเกิดขึ้น คือ การประกาศความเป็นหุ้นส่วนทางด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยต่อยอดเรื่องอุตสาหกรรมราง หรือทางด้านรถไฟต่าง ๆ เนื่องจากไทยให้ความสำคัญทางด้านการเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางอากาศและทางเรือ และหนึ่งในขีดความสามารถที่ไทยสามารถเรียนรู้จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันก็คือ ระบบราง เพราะสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันมีความทันสมัยอย่างมากในระบบดังกล่าว 

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันมีการพัฒนาอย่างก้าวไกล ดังนั้น การเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จะมีโอกาสได้พบปะกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ บริษัทเอกชนต่าง ๆ เช่น บริษัท เมอซิเดส เบนซ์ ที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ อย่างแบตเตอร์รี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่พัฒนาเป็นขั้นเป็นตอน จากที่มีราคาสูงก็ได้ปรับราคาที่เหมาะสม โดยที่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเช่นเดิม


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยยังให้ความสำคัญในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีด้านการศึกษา เนื่องจากไทยเห็นความสำเร็จของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีในการเตรียมความพร้อมให้กับแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรม โดยเฉพาะทางด้านอาชีวศึกษาที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีให้ความสำคัญและมีความก้าวหน้าอย่างสูง ทั้งนี้ ไทยมีโครงการความร่วมมือทางด้านระบบอาชีวศึกษากับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งจะพิจารณาว่ามีส่วนใดที่สามารถปรับใช้กับประเทศไทยได้บ้าง  และส่วนใดที่จะสามารถปรับปรุงร่วมกันได้ โดยเฉพาะหลักสูตรการเรียนการสอน และการหาหนทางที่จะทำให้หน่วยงานด้านการศึกษาอาชีวศึกษาของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเข้ามาเปิดหลักสูตรในไทย หรือมีความร่วมมือทางด้านอาชีวศึกษาของไทย เพื่อยกระดับแรงงานไทยให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือ และสามารถเข้าไปอยู่ในวงจรการพัฒนาอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้ ไม่ได้มองแค่เป็นประเทศไทยเท่านั้น แต่มองในฐานะจะเป็นประธานอาเซียนว่า จะทำอย่างไรให้ความร่วมมือกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีนั้นมีประโยชน์กับอาเซียน และยังมองถึงความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศหรือไตรภาคี โดยจะเสนอให้ทางสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีพิจารณาความร่วมมือกับไทย เพื่อต่อยอดโอกาสให้กับประเทศเพื่อนบ้านของไทย เพื่อทำให้อาเซียนแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ก็จะพูดคุยกับสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีเรื่องกรอบของ ACMECS เพราะเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญทางด้านเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค เนื่องจากขณะนี้ต้องการหาหุ้นส่วนจากภายนอกภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพทั้งเงินทุน องค์ความรู้ ให้ร่วมมาเป็นหุ้นส่วนเพื่อพัฒนาประเทศในอนุภูมิภาค.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร