ทีมวิศวกรพร้อมตรวจเรือฟีนิกซ์พรุ่งนี้-ไม่เกิน 7 วันรู้สาเหตุล่มเกาะเฮ

ภูเก็ต 21 พ.ย.- “พล.ต.อ.รุ่งโรจน์-พล.ต.ต.สุรเชษฐ์” นำคณะลงภูเก็ตตรวจเรือฟีนิกซ์อีกครั้งที่คานเรือรัตนชัย ก่อนทีมวิศวกรจะเริ่มเก็บข้อมูลเชิงลึกพรุ่งนี้ คาด 7 วัน รู้สาเหตุเรือล่มเกาะเฮ 


วันนี้ (21 พ.ย.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์  หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.ปรีดี พงศ์เศรษฐสันต์ รอง ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.)  นายธนภัทร เหมังกร ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเรือ และหัวหน้าทีมการกู้ซากเรือฟินิกซ์  รวมทั้งนายหลี ชุ่น ฝู รองกงสุลใหญ่จีนประจำสงขลา ร่วมตรวจสอบเรือฟีนิกซ์ที่คานต่อเรือบริษัทรัตนชัยคานเรือ จำกัด ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต  


พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวภายหลังการประชุมชุดเจ้าหน้าที่ทั้งหมดนนานเกือบชั่วโมงว่า ทันทีกู้เรือขึ้นมาได้ ขั้นตอนเบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่วิทยาการเก็บข้อมูลไว้ตลอด กระทั่งเรือจนถึงฝั่งและยกขึ้นบนคาน เพราะฉะนั้นในรายละเอียดต่าง ๆ เก็บไว้หมดทั้งจากกายภาพและหลักฐานอื่น ๆ ส่วนรายละเอียดวิศวกรจะเริ่มเข้าทำงานพรุ่งนี้ (22 พ.ย.)  คาดว่าจะทำรายงานสรุปผลได้ภายใน 7 วัน และจะนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุเกิดเรือล่ม แล้วผู้รับผิดชอบจะต้องเป็นใครบ้าง

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า  ในฐานะชุดสอบสวนสืบสวนจะให้เจ้าหน้าที่เร่งหาข้อมูลหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและกำชับให้ทุกภาคส่วนทำความจริงให้ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือตรวจรับรองการต่อเรือลำนี้หรือไม่ เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด  คงไม่เกินสัปดาห์หน้าจะได้สรุปข้อมูลกัน ก่อนจะมีการแถลงปิดคดีในส่วนนี้ เพื่อให้ญาติของผู้ประสบเหตุทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งเป็นชาวจีนคลายความสงสัยและได้ทราบสาเหตุที่แท้จริง


พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กระบวนการทำงานขณะนี้ไม่ยุ่งยาก เนื่องจากการตรวจแบบแปลนเรือ การสอบปากคำผู้ต่อเรือลำนี้  เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเอกสารแปลนเรือมาก่อน รวมถึงการสอบปากคำไว้แล้ว ดังนั้น เมื่อดูจากวัตถุพยานในส่วนของเรือก็จะตรงกับแปลนพิมพ์เขียวทั้งหมด ที่ได้ดำเนินการสอบสวนไว้แล้ว

“เรื่องความไม่สมบูรณ์ต่างๆ เรื่องการถ่วงโดยปูนหรือการเอาเครื่องยนต์รถบรรทุกมาใส่ ก็จะตรงทั้งหมด หรือมีจากูซี่ที่อยู่ข้างบน ซึ่งตามแบบจะต้องไม่มีจากูซี่ตามที่วิศวกรได้ระบุ และได้มีการมาต่อเติมทำเพิ่มภายหลัง โดยการต่อเติมในลักษณะนี้ ทำให้เรือไม่สมดุล การกู้เรือฟินิกซ์ครั้งนี้ใช้งบประมาณของรัฐจำนวน 35 ล้านบาท เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะกู้เรือฟินิกซ์ให้ได้ จึงได้นำตัวเครนขนาด 1,200 ตัน จากประเทศสิงคโปร์มาดำเนินการ”พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่