พรรคประชาธิปัตย์ 21 พ.ย.-“อภิสิทธิ์” เผยปม “ถาวร-วิทยา” ร่วม “สุเทพ” หาสมาชิกพรรค รปช.จบด้วยดี หลังเจ้าตัวยอมรับทำไม่เหมาะสม แต่ กก.บห.ปชป.ออกกฏคาดโทษในอนาคตใครทำซ้ำ จะไม่ส่งลงสมัครเลือกตั้ง-ขับออกจากการเป็นสมาชิก ย้ำ ปชป.ไม่ฮั้วการเมืองกับใคร รับสภาพมีระเบิดเวลาในพรรค ยันยังกุมสภาพพรรคได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค ว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบถึงกรณีที่นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา และนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช เปิดบ้านพักที่จังหวัดสงขลาให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) รับสมัครสมาชิกพรรค รปช.เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่าน โดยที่ประชุมเข้าใจตรงกันว่า เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว การคบหาสมาคมในหมู่นักการเมืองหรือคนที่เคยร่วมงานเป็นเรื่องปกติ รวมถึงการต้อนรับกันถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่การไปปรากฏตัวระหว่างการทำกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่น ก่อให้เกิดความสับสนในหมู่สมาชิกและประชาชน ซึ่งการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองใด ก็พึงทุ่มเทสนับสนุนพรรคการเมืองนั้น การไปอยู่ในกิจกรรมของพรรคการเมืองอื่นที่กระทบกับการแข่งขันของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง ทำให้เกิดความสับสนในหมู่สมาชิกและประชาชนทั่วไปว่าจุดยืนแนวทางของพรรคเป็นอย่างไร
“ผมจึงขอให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ รวบรวมข้อเท็จจริง จากนั้นผมได้โทรศัพท์คุยกับนายวิทยา และได้พบกับนายถาวร อธิบายให้ทั้งสองทราบว่า ประชาธิปัตย์มีจุดยืนเป็นตัวของตัวเอง ไม่มีแนวความคิดที่จะไปฮั้วกับพรรคการเมืองใด เพราะฉะนั้นการกระทำที่จะทำให้เกิดความสับสน ไขว้เขว ไม่พึงกระทำ ทั้งสองคนก็ยอมรับว่าไม่ระมัดระวังอย่างที่ควรจะเป็น กรรมการบริหารพรรค จึงเห็นว่าควรยุติเรื่องนี้ เพราะทั้งคู่ยอมรับจุดยืนรวมถึงหน้าที่พื้นฐานในฐานะสมาชิกพรรคแล้ว โดยกรรมการบริหารพรรคมีมติเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตว่ากรณีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปกระทำการใด ๆ ที่ไปร่วมกิจกรรมกับพรรคการเมืองอื่น กระทบกับการแข่งขันของพรรคประชาธิปัตย์ ในอนาคตจะดำเนินการลงโทษตามข้อบังคับพรรค คือ อย่างน้อยที่สุดถ้าอยู่ในข่ายลงสมัครรับเลือกตั้ง จะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ถ้าร้ายแรงก็ขับออกจากสมาชิกพรรค เป็นสิ่งที่สมาชิกพรรคต้องยึดถือต่อไป ส่วนกรณีของนายถาวรและนายวิทยา เมื่อยอมรับแล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ก็ยังอยู่ในข่ายที่จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะทั้งคู่ไม่ได้โต้แย้งใด ๆ ต่อจุดยืนของพรรคในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสองไม่ได้กล่าวขอโทษกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งผมเห็นว่าการขอโทษเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน ไม่สามารถไปบังคับได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยืนยันด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวกับผลกระทบจากการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค แต่ยอมรับว่า ยังมีผลข้างเคียงจากการกระทบกระทั่งกันระหว่างการหยั่งเสียง ซึ่งหากมีระเบิดเวลาในพรรค ก็เชื่อว่าแก้ไขได้ และมั่นใจว่าในฐานะหัวหน้าพรรคยังสามารถกุมสภาพในพรรคได้
ส่วนกรณี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม ยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีการทุจริตหยั่งเสียงในพื้นที่บางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการหารือกันแล้วในส่วนของ กกต.พรรคและผู้สมัครทั้งสามคน พร้อมกับชี้แจงถึงการตัดคะแนนจำนวน 32,462 คะแนน ที่ผู้กองปูเค็มติดใจออกไปว่าเป็นเพราะพบว่ามีการลงคะแนนจากเลขบัตรประชาชนเบอร์เดียวซ้ำกันหลายครั้ง และในการลงคะแนนผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งต้องถ่ายรูปผู้ใช้สิทธิถือบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน แต่กลับพบว่า มีการถ่ายรูปจาน ชาม ครัว สวน มะนาว เป็นต้น จึงต้องตัดออก โดยทุกอย่างเป็นข้อตกลงของผู้สมัครล่วงหน้า ก่อนเปิดรูปดู.-สำนักข่าวไทย