19 พ.ย.- เส้นทาง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรสาวมหัศจรรย์ วัย 21 ปี ขวัญใจชาวไทย กวาดทุกรางวัล ปี 2018 ถือเป็นนักกีฬาอาชีพไทยและโปรกอล์ฟสาวไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในกีฬาอาชีพ
“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรสาวมหัศจรรย์วัย 22 ปี เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 1995 เริ่มต้นเทิร์นโปรเมื่อปี 2012 ก่อนที่จะลงแข่งขันครั้งแรกในศึก เลดี้ส์ ยูโรเปียน ทัวร์ ในปี 2013 และก้าวสู่ศึกแอลพีจีเอทัวร์ ในปี 2015 โดยโปรเม ใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2517 ครั้งที่ 2 วันที่ 30 กรกฎาคม 2018 และล่าสุดครั้งที่ 3 วันที่ 29 ตุลาคมถึงปัจจุบันนี้
นับตั้งแต่เทิร์นโปร โปรเม คว้าแชมป์เลดี้ส์ ยูโรเปียน ทัวร์ 3 รายการ แชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 10 รายการ โดยเป็นแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ คือ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น ปี 2016 และยูเอส วีเม่นส์ โอเพ่น 2018 โดยในปี 2015 แม้ว่าจะไม่มีแชมป์ติดมือ แต่โปรเม ก็ทำรายได้จากการแข่งขันไป 482,527 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 16 ล้านบาทจากนั้นในปี 2016 ถือเป็นปีที่ โปรเม เริ่มฉายแววโปรมือ 1 ของโลก ด้วยการคว้าไปถึง 5 แชมป์ ทำเงินรางวัลไป 2,550,928 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 84 ล้านบาท แม้ว่าจากนั้นโปรเม จะมีปัญหาอาการบาดเจ็บเข่า จนต้องถอนตัวจากกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล และส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเธอในช่วงปลายปี
ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 โปรเม โชว์ฟอร์มได้ไม่ดี เหมือนเมื่อปี 2016 ไม่ผ่านการตัดตัวถึง 5 รายการ และต้องถอนตัวจากการแข่งขันอีก 1 รายการ แต่ยังคว้ามาได้ 1 แชมป์จากรายการ แมนูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ในเดือนมิถุนายน ปี 2017 ก่อนที่จะปิดท้ายปี 2017 ด้วยแชมป์ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สหรัฐ รับเงินรางวัลไป 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16 ล้านบาท ทำให้ปี 2017 โปรเม ทำรายได้ไป 1,549,858 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 51 ล้านบาท
มาถึงปี 2018 โปรเม เริ่มต้นด้วยสภาพร่างกายและจิตใจที่เกินร้อย หวังที่ขึ้นไปเป็นมือ 1 ของโลกให้ได้อีกสักครั้ง แม้ว่าจะต้องลุ้นกับ สามโปรสาวจากเกาหลีใต้ ปาร์ค ซัง ฮุน เรียว โซ ยอน และ ปาร์ค อินบี โดยปีนี้ โปรเม คว้าไป 3 แชมป์ ในศึกคิงส์มิลล์ แชมเปียนชิพ ยูเอส วีเมนส์ โอเพน รายการเมเจอร์ ที่ 2 ของตัวเอง และเลดี้ส์ สก็อตติช โอเพน จากนั้นยังทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาเป็นมือ 1 ของโลกเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม
ก่อนลงแข่งขันรายการสุดท้ายในศึกซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ 2018 ที่รัฐฟลอริดา ของสหรัฐ ซึ่ง“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรสาวมือ 1 ของโลก ที่เป็นผู้นำในตารางคะแนน เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ คว้าอันดับ 5 ร่วม ทำให้มีคะแนนสะสมสูงสุดของ เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ ในปีนี้ รับเงินโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท
ซึ่งนอกจากรางวัลเรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ แล้ว โปรเม ยังได้รางวัลแวร์ โทรฟี สำหรับนักกอล์ฟหญิงที่ทำคะแนนเฉลี่ยได้ดีที่สุดในปี 2018 ด้วยสกอร์เฉลี่ย 69.415 ดีกว่า อี มินจี จากออสเตรเลีย ที่ทำคะแนนเฉลี่ย 69.747 ,รางวัลนักกอล์ฟหญิงยอดเยี่ยมแห่งปี หรือโรเล็กซ์ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ ทำได้ 237 คะแนน อันดับ 2 ปาร์ค ซัง ฮุน 140 คะแนน อันดับ 3 อี มินจี 122 คะแนน , รางวัลนักกอล์ฟหญิงที่ทำผลงานระดับ เมเจอร์ ได้ดีที่สุดแห่งปี (โรเล็กซ์ แอนนิก้า เมเจอร์ อวอร์ด) , รางวัลนักกอล์ฟหญิงที่ติด 10 อันดับแรกมากที่สุดแห่งปี (ลีดเดอร์ส ท็อป 10) ลงแข่งขันไป 28 รายการ สามารถติดท็อป 10 ได้ถึง 17 รายการ , รางวัลนักกอล์ฟหญิงที่ทำเงินรางวัลสะสมได้มากที่สุดแห่งปี ทำเงินรางวัลไป 2,743,949 ดอลลาห์สหรัฐ หรือประมาณ 90 ล้านบาท ทำให้โปรเม มีรายได้เฉพาะเงินรางวัลจากการแข่งขันกอล์ฟตั้งแต่ปี 2015-2018 รวมเป็นเงินประมาณ 241 ล้านบาท
โดยหลังจากรับรางวัล โปรเม บอกว่า “มันเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ เธอไม่ได้คาดหวังกับรางวัลนี้ เพราะหลังจากปี 2016 ถือว่าได้ผ่านช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมาอย่างมากมายแล้ว แต่เธอก็ภูมิใจในตัวเองที่สุด สำหรับปีนี้ มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากๆ” ซึ่งต้องเป็นกำลังใจให้โปรเม สามารถรักษาตำแหน่งมือ 1 ของโลกเอาไว้ให้ได้นานที่สุด.-สำนักข่าวไทย