ศาลปกครองสูงสุด 9 ก.ย.-ศาลปกครองสูงสุดไม่รับฟ้องอภิรักษ์ยื่นฟ้อง กทม. กรณีถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย 1,434 ล้านบาท จากโครงการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง เหตุยื่นฟ้องเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของนายอภิรักษ์ โกษโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ยื่นฟ้องกทม. ผู้ว่าฯกทม.เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 กรณีกทม.มีคำสั่งที่ 1367/2557 ลงวันที่ 21 เมษายน 2557 เรียกให้นายอภิรักษ์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม กรณีทำละเมิดจากการดำเนินโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยจำนวน 1,434,463,937.07 บาท และรวมถึงค่าสินไหมทดแทนในส่วนค่าเสียหายอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ศาลให้เหตุผลว่าคดีนี้เป็นการเสนอข้อหาใหม่ต่อศาล ไม่ถือเป็นการยื่นฟ้องเรื่องเดียวกันในคดีเดิม แต่เมื่อนายอภิรักษ์อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวของ กทม.ต่อผู้ว่าฯ กทม. ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2557 ซึ่งตามกฎหมายผู้ว่าฯกทม.และรัฐมนตรีมหาดไทยจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน และขยายได้ไม่เกิน 30 วันนับแต่ครบกำหนด แต่ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ว่าฯกทม.และรัฐมนตรีมหาดไทยขอขยายระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ ดังนั้น ต้องถือว่าระยะเวลาที่นายอภิรักษ์จะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนเสียหายตามที่มาตรา 42 วรรคสองของ พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 กำหนดไว้นั้น ต้องเริ่มนับแต่วันที่ 6 กรกฎาคม – 3 ตุลาคม 2557 แต่นายอภิรักษ์มายื่นฟ้องคดีในวันที่ 31 ตุลาคม 2557 จึงเป็นการยื่นฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงไม่อาจรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณาได้ อย่างไรก็ตาม หากนายอภิรักษ์ได้รับแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์แล้วไม่พอใจผลพิจารณาดังกล่าวก็อาจฟ้องคดีนี้ขอให้ศาลเพิกถอนคำวินิจฉัยอุทธรณ์ได้ตามเงื่อนไขและระยะเวลาการฟ้องคดีที่กฎหมายกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าการฟ้องคดีดังกล่าว นายอภิรักษ์ได้มายื่นฟ้องกทม. ผู้ว่าฯกทม.และรัฐมนตรีมหาดไทย กรณีมีคำสั่งเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2553 ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในโครงการเดียวกันจำนวน 1,296,794,910.27 บาทต่อศาลปกครองกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1287/2554 โดยศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 เษายน 2557 ให้เพิกถอนคำสั่งกทม.ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่านายอภิรักษ์ได้เสนอให้นายโภคิน พลกุล รัฐมนตรีมหาดไทยขณะนั้นทบทวนการจัดซื้อฯแล้ว ทางรัฐมนตรีมหาดไทยยืนยันให้จัดซื้อตามมติ ครม. การกระทำของนายอภิรักษ์จึงไม่เป็นการละเมิดต่อกทม.แต่อย่างใด
ทั้งนี้ กทม.ได้ยื่นอุทธรณ์และขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งระหว่างศาลปกครองกลางยังไม่มีคำพิพากษาทาง กทม.ก็ได้มีคำสั่งไปยังนายอภิรักษ์ขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายในการจัดซื้อโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 1,434,463,937.07 บาท ทำให้นายอภิรักษ์มายื่นฟ้องเป็นคดีอีกแต่ศาลปกครองกลาง เห็นว่าเป็นการฟ้องคดีซ้ำกับคดีหมายเลขดำที่ 1287/2554 จึงไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา นายอภิรักษ์จึงยื่นอุทธรณ์ และศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำสั่งในวันนี้.-สำนักข่าวไทย