พบหนุ่มไบโพลาร์เป็นศพอยู่หลังอ่างเก็บน้ำ บนเขาใหญ่

นครนายก 16 พ.ย.-พบศพมนุษย์ถูกสัตว์กัดแทะ พร้อมสัมภาระในป่าข้างทาง ใกล้อ่างเก็บน้ำสายศร ล่าสุด รู้แล้ว เป็นหนุ่มไบโพลาร์ อายุ 22 ปี ที่เข้ามาพิสูจน์เหรียญบาทพญาครุฑปี 17 ที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. แล้วหายตัวไป


เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างเก็บน้ำสายศร หลังมีนักท่องเที่ยวพบศพมนุษย์มีหมาในกัดแทะ อยู่ในป่าข้างทางใกล้อ่างเก็บน้ำสายศร เมื่อไปตรวจสอบได้พบศพมนุษย์ไม่ทราบชื่อ เพศและอายุ พร้อมสัมภาระจำนวนหนึ่ง อยู่ในป่าข้างเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นที่ 4 (ดงติ้ว-มอสิงห์โต) ห่างจากอ่างเก็บน้ำประมาณ 100 เมตร จึงรายงานหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารที่1 ปราจีนบุรี


นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารที่ 1 นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้รับรายงานจาก นายศรุต พิรักษา นิติกรปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พบศพมนุษย์ จึงสั่งการให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก และแพทย์ เข้าทำการชันสูตรศพ พร้อมตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบว่าศพที่พบ คือ นายธนทัต ติยพงศ์พัฒนา หนุ่มป่วยไบโพลาร์ วัย 22 ปีที่เข้ามาพิสูจน์เหรียญบาทพญาครุฑปี 17 ที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา จนกระทั้งเวลาประมาณ 15.30 น. นางปรารถนา วิสุทธิกุล พร้อมกับญาติได้เดินทางมาถึงอ่างเก็บน้ำสายศร ด้วยความเสียใจหลังทราบข่าวเป็นศพลูกชาย ได้เดินตรงไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมยืนยันว่าศพที่พบเป็นลูกชายของตนเองจริง ญาติได้พาออกมาพักก่อนจะพาขึ้นรถเดินทางออกจากที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.ธนวินจันทวี ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนครนายก ได้บอกว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งจากนางปรารถนา และ ทางร้อยเวร ที่ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพกับแพทย์ พบเอกสารสำเนาบัตรประชาชนยืนยันว่าเป็นนายธนทัต ติยพงศ์พัฒนา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ต้องส่งให้ รพ.ธรรมชาติรังสิต ทำการชันสูตรพลอกอีกครั้ง เพื่อทราบสาเหตุการเสียชีวิต จากนั้นก็จะส่งศพให้กับทางครอบครัวไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป


ร.ต.อ.ประครอง ชัยมูล ร้อยเวร สภ.เมืองนครนายก บอกว่าในที่เกิดเหตุพบบัตรรักษาโรงพยาบาล และบัตรประชาชนมีรูปชัดเจน ในสัมภาระพบน้ำ มีด เงินสด ในที่เกิดเหตุมีด้วยกัน 3 จุด ห่างกัน กันจุดละ10 เมตรขณะที่ 3 จุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บอก คือจุดแรกบริเวณต้นไม้เป็นจุดลักษณะเหมือนนายธนทัต นั่งพัก และคาดว่าอาจเสียชีวิตก่อนที่จะเจอหมาใน เนื่องจากมีสัมภาระอยู่ตรงนั้น จุดที่ 2  จุดที่มีรองเท้า คล้ายลักษณะถูกลากมาจากจุดแรก ห่างจากจุดแรกประมาณ 5 เมตร ส่วนจุดที่ 3 ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 10 เมตร คือจุดที่นักท่องเที่ยวพบหมาในกำลังกัดกินศพ (จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าปกติแล้วหมาใน จะกลัวมนุษย์ เมื่อพบเห็นจะหลบหนี  จึงคาดว่านายธนทัต น่าจะเสียชีวิตก่อนที่หมาในจะมาพบ) 

ด้านแพทย์ โรงพยาบาลนครนายก ได้บอกว่า ลักษณะการเสียชีวิตบอกได้ยากว่าเสียชีวิตมานานเท่าใด เนื่องจากสภาพศพได้ถูกสัตว์แทะ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 7 วัน ส่วนสภาพศพหนังศีรษะหลุดออก กระดูกบางส่วนโผล่ออกมา ส่วนสาเหตุการตายที่แน่ชัดต้องให้ฝ่ายนิติเวชชันสูตรอีกครั้ง

สำหรับนายธนทัต นั้น ได้เดินทางออกจากบ้านเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม จากนั้นมีเจ้าหน้าที่อุทยานพบบริเวณปากทางเข้าอุทยานจึงรับมายังบริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ก่อนที่นายธนทัต ได้เดินมาสอบถามกับเจ้าหน้าที่อุทยานว่า ผากล้วยไม้ไปทางไหน บริเวณป้อมลานจอด ฮ. จนกระทั้งมีเจ้าหน้าที่พบเห็นครั้งสุดท้ายบริเวณทางลงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หนองอึ่ง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 36-37 เย็นวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา จากนั้นแม่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ได้ขอความช่วยเหลือกับทางอุทานแห่งชาติเขาใหญ่ และในวันนั้นทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จัดกำลังออกค้นหาบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติทุกจุดในพื้นที่ พร้อมทั้งได้มีการจัดชุดเฉพาะกิจออกลาดตระเวนพื้นที่ป่าอุทยาน กว่า 12500 ไร่ ขณะเดียวกันได้รับการสนับสนุนจากสุนัขk9 และทาง พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผู้กำกับการ สภ.หมูสี จังหวัดนครราชสีมา   ได้ประสาน พ.ท.ดนัย สุมานิตย์ ผู้บังคับกองพันสุนัขทหาร นครราชสีมา นำสุนัขเข้าค้นหาในพื้นที่ต้องสงสัย ขณะที่เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน หลวงพ่อจำรัส ปภัสสโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ภูน้อย สามัคคีธรรม ใน อ.เชียงคาน จ.เลย ได้เดินทางมาเปิดป่า หวังจะได้พบนายธนทัต ในวันนั้น ซึ่งทางนายวิชัย  พรลีแสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารที่1 นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้จัดกำลังหน่วยเฉพาะกิจ ลงพื้นที่สำรวจคลองลำตะคลองอีกครั้งหลัง พระรูปนี้ระบุอาจจะเจอในวันนั้นและวันรุ่งขึ้น แต่ก็ไม่พบ จากนั้นวันที่ 10 พฤศจิการยน ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงบรรจุภาระกิจการค้นหานายธนทัศ ในระบบสมาร์ทพาเทล คือหนึ่งในภารกิจล่าตระป่าอุทยาน เพื่อให้ช่วยกันค้นหานายธนทัต จนกระทั้งเวลาผ่านเลยมาจนถึงวันนี้ หากนับตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม วันที่มีคนพบเห็นนายธนทัต ครั้งสุดท้าย ก็จะเป็นเวลา 21 วันแล้ว จึงมีนักท่องเที่ยวมาพบศพที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างเก็บน้ำสายศร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]