หมอเข้ามอบตัว ปฏิเสธไม่ได้ข่มขืนคนไข้

นครสวรรค์ 15 พ.ย.-หมอใน จ.นครสวรรค์ ถูกแจ้งความกระทำชำเราคนไข้ระหว่างตรวจภายใน ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา อนาจารและกระทำชำเรา เจ้าตัวเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ยังให้การปฏิเสธ


พ.ต.ท.บุญเชิด จันทร์มณี รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองนครสวรรค์ เปิดเผยว่า มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงและทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายเรียกหมอคนดังกล่าวให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว โดยเป็นนายแพทย์ อายุ 53 ปี เป็นหมอประจำโรงพยาบาลของรัฐประจำจังหวัด และเปิดคลินิก ในเขตเทศบาลนครนครสวรรค์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้ง 2 ข้อหา คือ อนาจารและกระทำชำเรา แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธและขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น โดยตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากทางโรงพยาบาลที่ส่งคนไข้ไปตรวจร่างกาย และหลักฐานจากผู้เสียหาย รวมถึงข้อมูลในไลน์ที่หมอคุยกับคนไข้ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีดำเนินการตามชั้นตอนของกฎหมายต่อไป


พ.ต.ท.บุญเชิด เปิดเผยว่าจากการสอบสวนผู้เสียหาย ทราบว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา น.ส.แจน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี พนักงานราชการ สังกัด อบต.แห่งหนึ่ง มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยธานีแต่ไม่หาย จึงขอไปรักษาตัวที่อื่น และได้เข้ามารักษาที่คลินิกหมอคนดังกล่าวใน จ.นครสวรรค์ เมื่อผู้เสียหายเปลี่ยนชุดเข้าห้องตรวจ นอนบนเตียงขาหยั่งเพื่อตรวจภายใน หมอคนดังกล่าวได้ล็อกประตูปิดไฟ แล้วเริ่มตรวจด้วยการส่งกล้องและอธิบายภาพบนจอแสดงผล ก่อนขออนุญาตผู้เสียหายใช้นิ้วมือของหมอ เมื่อตรวจแล้วหมอได้ยืนขึ้นในลักษณะประชิดตัวผู้เสียหายแล้วเอาอวัยวะเพศมาถูไถกับอวัยวะเพศผู้เสียหาย จากนั้นหมอได้เอามือมากดที่ท้องน้อย แต่อวัยวะเพศของหมอก็ยังถูไถตลอดเวลา จนผู้เสียหายรู้สึกเจ็บ หมอได้บอกว่าจะสอนวิธีการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้องและไม่เกร็งหน้าท้อง พร้อมโน้มตัวลงทับบนตัวผู้เสียหาย ก่อนใช้ปากเป่าลมออกมาที่บริเวณซอกคอ ซึ่งทำอยู่ประมาณ 5 นาที แล้วตนเองให้หลับตาจินตนาการว่ากำลังมีเพศสัมพันธ์อยู่ แล้วพยายามใช้ปากมาจูบและไซร้ที่ซอกคอ มือโอบกอดผู้เสียหายเอาไว้ด้วย จากนั้นผู้เสียหายรู้ว่าไม่ใช่วิธีการรักษา จึงได้ใช้มือผลักถึง 3 ครั้ง ทำให้หมอต้องยอมลุกออกไปจากตัวผู้เสียหายในที่สุด

ต่อมา วันที่ 21 ก.ย. ผู้เสียหาย น.ส.แจน (นามสมมุติ) กลับมารักษาที่คลินิกหมอคนดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งหมอก็ได้ให้ขึ้นเตียงขาหยั่งเพื่อตรวจภายใน แต่หมอกลับใช้ปากเป่าที่อวัยวะเพศของผู้เสียหาย แล้วบอกว่าจะใช้เครื่องมือตรวจในช่องคลอด เมื่อสอดเข้าไปรู้สึกเจ็บมาก แล้วชาที่อวัยวะเพศ และรู้สึกว่าหมอเอานิ้วใส่เข้าไปในอวัยวะเพศ แล้วถูวนไปมา กระทั่งผู้เสียหายได้ยินเสียงมีการรูดซิปและรู้สึกว่ามีอวัยวะเพศชายเข้ามาในช่องคลอดขยับเข้าออกตลอดเวลา โดยปากก็จูบไซร้ที่คอผู้เสียหาย ประมาณ 15-20 นาที จึงลุกออกจากตัวผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความอับอายเป็นอย่างมาก จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีกับหมอ


ด้าน ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงการตรวจภายในตามหลักการแพทย์ว่า ตามหลักแล้วเมื่อแพทย์ตรวจภายในจะต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วยเสมอ ซึ่งขั้นตอนการตรวจภายใน แพทย์จะอธิบายขั้นตอนก่อนที่จะตรวจภายในอย่างละเอียดว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยตรวจภายนอกก่อน เมื่อจะใส่เครื่องมือไปตรวจภายในช่องคลอดว่ามีความผิดปกติหรือไม่ก็จะใส่ถุงมือและคลำทั้งภายนอกและภายในและกดบริเวณหน้าท้อง พร้อมกับอธิบายคนไข้ให้ทราบว่ากำลังทำอะไรอยู่ตลอดเวลา

ส่วนขั้นตอนการตรวจภายในจำเป็นต้องใส่ของปลอมเพื่อลดความเจ็บปวดคนไข้หรือไม่ ศ.นพ.ภิเศก กล่าวว่า เรื่องการลดความเจ็บปวด แพทย์จะใช้วิธีพูดคุยกับผู้ป่วยให้เข้าใจว่าต้องทำอะไรบ้างอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ป่วยลดความตึงเครียด สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ อาทิ หัวอัลตร้าซาวน์จำเป็นต้องใส่ถุงยางอนามัยเพื่อครอบอุปกรณ์ไว้ไม่ให้เสียหาย ส่วนแพทย์จะใส่ถุงมือ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน

สำหรับการตรวจภายในจะมีฉากบัง ระหว่างคนไข้กับแพทย์หรือไม่ ศ.นพ.ภิเศก กล่าวว่า ไม่มีฉากใดๆ กั้นระหว่างคนไข้กับหมอ แต่หากคนไข้อายสามารถขอหน้ากากปิดตาสวมใส่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ระหว่างการตรวจภายในจะต้องมีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วย และควรเป็นผู้หญิง ในกรณีตนเองจะไม่ตรวจเลยหากไม่มีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วย สำหรับกรณีดังกล่าว ต้องรอฟังรายละเอียดและฟังความทั้งสองข้างเพื่อความยุติธรรมด้วย

เหตุการณ์นี้กลายเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อ ทนายนิด้า อยู่ที่ บริษัท ทนายนิด้า โพสต์ข้อความ #องค์กรทำดี #บุ๋มปนัดดาวงศ์ผู้ดี นี่หาแต่เรื่องมาให้ทำ ล่าสุดหมอใหญ่ข่มขืนกระทำชำเราหญิงตอนตรวจภายใน อ้างใช้ของปลอมสอดใส่ ไม่ได้ใช้ของตัวเองใส่ แต่เสือกใส่ถุงยางให้ของปลอมด้วย เซฟตี้มากๆ กราบในความพินาความปลอดภัยให้คนไข้ 🙄  เดี๋ยวอารมณ์ดีๆ จะเปิดคลิปหมอให้ฟัง เปิดเสร็จจะเดินหน้าลุยคดี โดยไม่สนคำร้องขอของหมอที่ขอโอกาสให้ยุติการดำเนินคดีเพื่อขออยู่เอา เอ้ย ดูแลคนไข้อื่นต่อไป ประเทศไทยอาจจะต้องเสียหมอเก่งแต่ไม่ดีไปอีก 1 คน …. นิด้าเชื่อว่าน้องคนนี้ไม่ใช่คนแรกที่ถูกทำแบบนี้และไม่ใช่คนเดียวแน่นอน!! โปรดติดตาม!!

#ข่มขืนกระทำชำเรา #ข่มขืนคนไข้

#ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย #ทีมทนายสายลุย

และยังมีภาพการสนทนากับ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่ขอให้ทนายนิด้า ช่วยทำคดีหมอข่มขืนคนไข้ และภาพการสนทนาซึ่งคาดว่าจะเป็นหมอกับผู้เสียหาย ซึ่งมีข้อความว่า ขอโอกาสให้หมอได้ใช้ความรู้ที่มีดูแลคนไข้ต่อได้ไหม

จากนั้นอีก 2 ชั่วโมงถัดมา ทนายนิด้าก็ได้โพสต์ข้อความว่า ภาคสองสุดจัดปลัดบอก ขนาดปลัดออกยังบอกสุด หมอกลัวตอนตรวจคนไข้เจ็บ เลยปลุกอารมณ์นิดนึงก่อน มีอารมณ์ทางเพศแล้วจิมิปรวดดค่า นี่ไม่ต้องถามว่าแชทนี้จริงหรือปลอม ข้าเจ้าเป็นคนเก็บเองกะมือ #ข่มขืนกระทำชำเรา #ชำเราคนไข้ #องค์กรทำดี #บุ๋มปนัดดาวงศ์ผู้ดี #ทนายนิด้า #ทนายหญิงสายลุย #ทีมทนายสายลุย

พร้อมภาพการสนทนาทางไลน์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการพูดคุยระหว่างหมอกับผู้เสียหาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]