เมืองทองธานี 15 พ.ย. – รมว.คมนาคมระบุไทยเตรียมพร้อมเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่ในอนาคตไทยอาจถูกตรวจสอบเรื่องมาตรฐานการบินมากขึ้น พร้อมมั่นใจว่าไทยสามารถปรับระดับของ FAA ได้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมนา “แนวโน้มอุตสาหกรรมการบิน” ว่า แนวโน้มการเดินทางโดยเครื่องบินทั่วโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยปริมาณผู้โดยสารในช่วง 10 ปีมีเพิ่มขึ้น โดยปี 2551 มีจำนวน 57 ล้านคน ขณะที่ปี 2560 มีผู้โดยสารเพิ่มเป็น 155 ล้านคนหรือเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว โดยที่ผ่านมามีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเห็นได้ว่าไทยยังมีแนวโน้มผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้น และมั่นใจว่าไทยจะเป็นศูนย์กลางการบินในอนาคต ซึ่งไทยจะต้องใช้โอกาสนี้ในการพัฒนา
ขณะเดียวกันไทยต้องเน้นเรื่องการกำกับดูแลเป็นสำคัญตามหลักเกณฑ์ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) แม้ว่าไทยจะสามารถปลดธงแดง ICAO ไปแล้ว แต่อาจยังมีบางข้อที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ซึ่งขณะนี้คาดว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาและคาดว่าจะสามารถผ่านการพิจารณาได้ในรัฐบาลชุดนี้
ขณะที่ปี 2562 สำนักงานบริหารการบินของสหรัฐ (FAA) จะมาตรวจสอบด้านเทคนิค เพื่อพิจารณาการปรับระดับ ซึ่งขณะนี้ไทยยังอยู่ในแคเทอกอรี่ที่ 2 ซึ่งจะปรับระดับหรือไม่ขึ้นอยู่กับการบริหารของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ว่าเป็นไปตามกำหนดหรือไม่ หากปรับระดับได้จะเป็นผลดีกับสายการบินของไทย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้านอุตสาหรรมการบินในสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งตั้งเป้าจะมีผู้โดยสาร 60 ล้านคนต่อปี และยังมีการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก ตัวสนามบินและศูนย์ซ่อมอากาศยานของการบินไทยและแอร์บัส ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย