กรุงปารีส 11 พ.ย. – นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสันติภาพปารีส พร้อมมอบหนังสือเกี่ยวกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 เล่มให้ห้องสมุดสันติภาพ ย้ำสันติภาพโลกเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกประเทศ
“ดาวี ไชยคีรี” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานวันรำลึกการครบรอบ 100 ปี การยุติสงครามโลกครั้งที่ 1และพิธีเปิดการประชุมสันติภาพปารีส (Paris Peace Forum) ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่าง 11-12 พ.ย. 2561 รายงานว่า เวลา 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้ร่วมพิธีเปิดการประชุมสันติภาพปารีส (Paris Peace Forum ) ณ หอประชุมใหญ่ Grande Halle de La Villette โดย เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นประธาน
การประชุม Paris Peace Forum ถือเป็นเครื่องมือในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคประชาสังคม ในการร่วมเสนอแนวทางธรรมาภิบาลโลกรูปแบบใหม่ ที่จะตอบโจทย์ความท้าทายในยุคปัจจุบันได้
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้เชิญผู้นำประเทศ ผู้นำรัฐบาลกว่า 114 คน เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุม Paris Peace Forum เพื่อหาข้อเสนอด้านสันติภาพและการปกครองในทุกมิติที่เป็นรูปธรรมร่วมกัน โดยฝรั่งเศสมุ่งหวังจะจัดการประชุม Paris Peace Forum ทุกปีหลังจากนี้ เพื่อเป็นเวทีสำหรับการระดมสมอง ด้านสันติภาพ ธรรมาภิบาล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
จากนั้น ผู้นำประเทศ ผู้นำรัฐบาลถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไทยจะมอบหนังสือเกี่ยวกับแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมลายเซ็นต์ให้กับห้องสมุดสันติภาพ จำนวน 3 เล่ม ได้แก่
1. Sufficiency Thinking: Thailand’ s gift to an unsustainable world 2. Thailand’ s Sustainable Development Sourcebook และ 3. A Call to Action : Thailand and The Sustainable Development Goals
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันรำลึกถึงการครบรอบ 100 ปี ของการยุติสงครามโลกครั้งที่ 1 ถือเป็นเครื่องเตือนใจว่า เราจะต้องไม่ทำให้โศกนาฏกรรมร้ายแรงแสนสาหัสแก่มวลมนุษยชาติเช่นนี้เกิดขึ้นอีก สันติภาพของโลกจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีพื้นฐานจากการพัฒนาที่ครอบคลุมและยั่งยืน ประเทศไทยได้ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายให้เกิดการพัฒนาและสันติภาพที่ยั่งยืน โดยทุกคนเข้มแข็งไปด้วยกัน จึงขอมอบหนังสือ 3 เล่มนี้ ซึ่งมีสาระสำคัญสะท้อนแนวคิดดังกล่าวไว้
จากนั้น เวลา 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับประเทศไทย และจะถึงประเทศไทยช่วงบ่ายวันนี้ (12 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ..- สำนักข่าวไทย