กรุงเทพฯ 11 พ.ย.- ที่ประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์เลือก “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้าพรรคแบบไร้คู่แข่ง เนื่องจากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อขอถอนตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคพรรคประชาธิปัตย์ จัดประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 11 คน ตามข้อบังคับพรรค และตามคำสั่งคสช. โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม โดยการประชุม เริ่มขึ้นเวลา 09.40น. มีองค์ประชุม 304 คน ลาประชุม 21 คน
นายจุรินทร์ ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นกรรมการบริหาร และหัวหน้าพรรค โดยการเลือกหัวหน้าพรรคตามข้อบังคับพรรคให้คำนึงถึงผลการหยั่งเสียงเบื้องต้น และผลการหยั่งเสียงปรากฎว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนะการหยั่งเสียง และพรรคได้ตั้งกรรมการการเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารจำนวน 11 คน
จากนั้นนายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตส.ส.เพชรบุรี เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค และนายสงกรานต์ จิตสุทธิภากรณ์ อดีตส..ส.นครสวรรค์ เสนอนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม เป็นหัวหน้าพรรค และประธานสาขาพรรคจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เสนอชื่อนายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นหัวหน้าพรรค
นพ.วรงค์ ประกาศถอนตัว และเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ และขอแสดงความยินดีกับนายอภิสิทธิ์ ที่เป็นคนแรกที่ได้รับการหยั่งเสียง และขอชื่นชมในเสียงสนับสนุน 6 หมื่นกว่าคะแนน และเชื่อว่าจะนำพรรคไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
“ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ให้การสนับสนุนผม 5 หมื่นกว่าคะแนนที่ถือว่าไม่น้อยและขอให้พรรคมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ผมขอโทษทุกคนที่ในช่วงการหาเสียงอาจจะมีการล้ำเส้นกันบ้าง ผมขอฝากนายศุภชัย ศรีหล้า อดีตส.ส.อุบลราชธานี เป็นคณะทำงานในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพื้นที่อีสานมีการแข่งขันกันมาก เราถือว่าหัวหน้าพรรคได้รับฉันทามติจากประชาชน เราต้องเคารพมคิประชาชน ผมจึงขอถอนตัว” นพ.วรงค์ กล่าว
ด้านนายอลงกรณ์ ประกาศถอนตัวเช่นกัน เพราะสมาชิกทั้งประเทศได้เลือกให้นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค และที่กลับมาพรรคเพื่อต้องการสร้างจุดเปลี่ยนของพรรคและจุดเปลี่ยนประเทศไทย อยากเห็นกฎเหล็ก 5 ข้อที่เคยเสนอ ยืนบนหลักการประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะเหลือผู้ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว ก็ยังต้องให้สมาชิกลงคะแนนรับรอง โดยต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งการลงคะแนนครั้งนี้เป็นการลงคะแนนผ่านเครื่องลงคะแนนที่พรรคได้ใช้เครื่องลงคะแนนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 60 เครื่อง ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้รับการรับรองเป็นหัวหน้าพรรคด้วยคะแนนอดีตส.ส. 121 เสียงจาก126 เสียงคิดเป็นร้อยละ 67.2 และองค์ประชุมอื่น 131 จาก 133เสียง คิดเป็นร้อยละ 29.54 ทั้งนี้ ในส่วนของอดีตส.ส.ที่งดออกเสียงคือกรรมการเลือกตั้งของพรรค และเมื่อได้หัวหน้าพรรคแล้วก็จะมีการเสนอชื่อรองหัวหน้าพรรค 13 คน แบ่งเป็นรองหัวหน้าภาค 5 คน รองหัวหน้าภารกิจ 8 คน
สำหรับบรรยากาศการประชุม เป็นไปอย่างคึกคัก แม้จะพึ่งผ่านการหยั่งเสียงหัวพรรคไปเมื่อวาน แต่ทั้งสามคน ที่สมัครชิงหัวหน้าพรรค ทั้งนายอภิสิทธิ์ นายแพทย์วงรค์ เดชกิจวิกรม และนายอลงกรณ์ พลบุตร ก็ทักทายกันอย่างเป็นกันเอง รวมทั้งกองเชียร์ของทั้ง 3 ฝ่ายด้วย.-สำนักข่าวไทย