กรุงเทพฯ 9 พ.ย- รปช.เปิดสำนักงานใหญ่พรรค ประกาศ เดินหน้าไม่สนกระแสต้าน “สุเทพ” ชี้ไทม์ไลน์รัฐบาลใหม่ค่อนข้างช้าเหตุการเมืองซับซ้อน เตือนอย่าประมาท กลยุทธ์ทักษิณ แบ่งสาขา แตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย มีสิทธิ์รวมเสียงได้เกิน 300 ยืนยัน รปช.ไม่ปรับกลยุทธ์ มั่นใจเดินคารวะแผ่นดินไม่เป็นเหตุเลื่อนเลือกตั้ง
เมื่อ เวลา 09.00 น. ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) พร้อมด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช.และคณะกรรมการบริหาร ทำบุญเปิดสำนักงานใหญ่พรรค ที่อาคาร PKL ภายในซอยรัชดาภิเษก 26 โดยนิมนต์ท่านเจ้าคุณเมธีวราลงกรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม พร้อมพระสงฆ์ 9 รูป มีประกอบพิธีสงฆ์ตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่จะมีพิธีเปิดป้ายสำนักงานใหญ่พรรค
จากนั้นในเวลา 09.50 น. นายวิเชียร เชาวลิต นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นตัวแทนนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนาย อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีในนามพลังประชารัฐ รวมทั้งนายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา เป็นตัวแทนพรรคชาติพัฒนา นพ.ระวี มาศฉมาดล ในนามพรรคพลังธรรมใหม่ และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ และน.ต.สุธรรม ระหงษ์ ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนนายถาวร เสนเนียม มาร่วมแสดงความยินดี ในนามมวลมหาประชาชน
นายสุเทพ กล่าวกับตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ว่า แม้จะมีกระเช้าดอกไม้มาคนละกระเช้าแต่ดูจากการจัดดอกไม้และตระกร้าแล้ว เห็นว่าน่าจะมาจากร้านเดียวกัน จึงเชื่อว่าหลังการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงเป็นหนึ่งเดียว และเห็นว่าการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคเป็นก้าวแรกของการปฏิรูปพรรค อยากให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าในเรื่องของการทำไพรมารี่โหวตผู้สมัคร ส.ส. และทำให้พรรคเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า จากการเดินหาสมาชิกพรรค มีผลตอบรับด้วยดี และหลังจากนี้จะเป็นการเลือกกรรมการบริหารพรรค และตัวแทนพรรคที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง รวมทั้งการตั้งสาขาพรรค ก่อนการประชุมพรรคที่เรียกว่าการประชุมสมัชชา โดยในที่ประชุมสมัชชาจะเปิดโอกาสให้สมาชิกลงคะแนนเลือกผู้บริหารด้วยตัวเองผ่านระบบไอที จากนั้นเมื่อมีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครแล้วก็จะเปิดให้สมาชิกได้ลงคะแนน เพื่อเลือกผู้สมัครของตัวเองหรือเรียกกันว่าระบบไพรมารี่โหวต
ส่วนไทม์ไลน์เลือกตั้งของรัฐบาลนั้น ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ไม่ว่าจะกำหนดกรอบเวลาอย่างไร ในเมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็ต้องชอบและยอมรับสิ่งที่จะออกมาและดำเนินการตามกรอบนั้น โดยขณะนี้ก็มีการเตรียมการเกี่ยวกับเรื่องผู้สมัครไปบ้างแล้ว จากนี้ก็ต้องมาประเมินด้วยว่าพรรคเราจะกลายเป็นพรรคเล็กหรือพรรคขนาดไหน เพื่อจะได้ประเมินตัวเองถูก และไม่รู้สึกหวั่นไหวกับการที่มีผู้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย การทำงานการเมืองของพรรคไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคืนนกหวีดหรือกรณีอื่น ๆ แต่อย่าคิดว่าจะเป็นความเห็นของฐานเสียงต่อ กปปส.ทั้งหมด เนื่องจากอาจจะเป็นเรื่องของปลาตัวเดียวไม่ใช่ปลาทั้งหมด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย พอใจกับผลการเดินคารวะแผ่นดินตลอด 14 วันที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับการตอบรับจากประชาชนแม้ว่าจะมีเรื่องตื่นเต้นทุกวัน ก็ไม่สนใจว่าจะมีใครมาก่อกวนหรือสร้างภาพให้เกิดความเสียหายเพราะเห็นว่าเป็นการเตรียมการล่วงหน้า เช่น กรณีที่ไปที่ตลาดบ่อบัวมีคนหนึ่ง นำนกหวีดวางบนถุงปุ๋ยมาคืน ซึ่งตนเข้าใจดีว่าต้องการเสียดสีว่าตนเคยเดินรับบริจาคเงินในช่วงปี 57 อย่างไรก็ตามไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีที่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ที่ออกมาเรียกร้องให้ตนและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคหยุดการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเนื่องจากประชาชนไม่เอาด้วยแล้ว ถือว่าเป็นความเห็นของนายอาทิตย์ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ตนเคารพนับถือ และพร้อมน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหมด แต่จะยังเดินหน้าทำงานการเมืองต่อไปเพราะไม่ได้เป็นการทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองแต่เป็นการทำเพื่อบ้านเมือง
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงไทม์ไลน์รัฐบาลที่กำหนดว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งราว 4 เดือนเศษ ว่า ค่อนข้างจะช้า โดยรัฐบาลปกติในสมัยที่ตนเป็นผู้จัดการรัฐบาลใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเศษ แต่เป็นเพราะการเมืองในขณะนี้มีความซับซ้อนมากและมีพรรคการเมืองจำนวนมาก จึงไม่สามารถประเมินได้ว่าคะแนนเสียงจะเป็นอย่างไร ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่มีพรรคการเมืองน้อยสามารถที่จะตกลงกันได้ง่าย
“พรรคเพื่อไทยในขณะนี้มีกลยุทธ์แตกสาขา ซึ่งตนเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่านายทักษิณ ชินวัตร จะใช้ยุทธวิธีแตกแบงค์พันเป็นแบงค์ร้อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ เพราะแบงค์ร้อยเมื่อรวมกันก็เป็นจำนวนมาก และอาจจะเป็นตามเป้าที่มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าจะได้จำนวน ส.ส. เกิน 300 เสียง ด้วยการให้พรรคของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปเน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ส่วนพรรคของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็เน้นที่พื้นที่ภาคใต้ และเจ๊แดง ก็อาจจะมีกลุ่มเป้าหมายไปอีกกลุ่มหนึ่ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเมื่อแยกกันไปแล้วสุดท้ายก็จะมารวมกัน แต่ในส่วนของพรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ทางการเมืองเพราะจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาให้ประชาชนเห็นว่าการเมืองไม่ใช่เรื่องซับซ้อน” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่าจากนี้ไปก็จะลงพื้นที่คารวะแผ่นดินในภาคใต้ ซึ่งไม่กลัวว่าจะเกิดกระแสต่อต้านเหมือนที่เกิดขึ้นในพื้นที่อื่น ๆ เพราะการเดินของตนเปรียบเทียบเหมือนกับพระธุดงค์ จึงมั่นใจว่า การเดินคารวะแผ่นดินของตนจะไม่นำไปสู่ความวุ่นวายจนเป็นสาเหตุให้เกิดการเลื่อนการเลือกตั้ง เหมือนที่มีการตั้งข้อสังเกตกันอยู่ในขณะนี้ .-สำนักข่าวไทย