หลายปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นลดลงเป็นเดือนที่ 2

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยหลายปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นลดลงเป็นเดือนที่ 2 แต่หาก 2 ผู้นำตกลงได้น่าจะส่งผลการค้าโลกกลับมาดีขึ้น


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2561 พบว่า ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือน 2 นับตั้งแต่มิถุนายน 2561 มาอยู่ที่ระดับ 86.4 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่ากังวลปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนในไทย ปัญหาราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง และยางพารายังไม่สูงและปัญหาราคาน้ำมัน ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งค่าดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก 

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง คือ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มลดลงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงปัจจุบัน แต่ยังมีสัญญาณว่านักท่องเที่ยวจีนจะไม่ลดลงมากกว่านี้ ประกอบกระแสข่าวทั้ง 2 ผู้นำทั้งสหรัฐและจีนเริ่มหันมาเจรจากัน โดยได้โทรศัพท์คุยกันและมีท่าทีว่าจะเปิดการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อหาทางออกของปัญหา คาดว่าหากผลการเจรจาออกมาดีน่าจะส่งผลให้การค้าของโลกจะกลับมาดีขึ้นรวมถึงไทย ดังนั้น ทางศูนย์ฯ มองว่าหากปัญหาดังกล่าวไปในทิศทางที่ดีส่งผลให้การค้าโดยเฉพาะการส่งออกของไทยจะส่งออกได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้เป็นบวกไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 และนักท่องเที่ยวจากจีนจะกลับมาท่องเที่ยวในไทยทุกภาคส่งผลให้ปีนี้ยอดนักท่องเที่ยวในไทยจะมีมากกว่า 38 ล้านคนได้


นอกจากนี้ จะทำให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าจะยังระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มบ้าน รถยนต์ แต่น่าจะส่งผลให้การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่น่าจะกลับมาดีขึ้น รวมทั้งสินค้าภาคการเกษตรแม้จะยังไม่ดีขึ้นเต็มที่แต่ราคาส่วนใหญ่ไม่ได้ลดลงไปมาก เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่ได้ผันผวนมากจนเกินไปและมีแนวโน้มทรงตัวมากขึ้น โดยเหตุผลเหล่านี้จะทำให้ความเชื่อมั่นโดยรวมของไทยดีขึ้น ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี 2561 ที่ทางศูนย์ฯ มองไว้น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.6 และหากผลการพูดคุยทั้ง 2 ผู้นำไปในทิศทางที่ดีปัจจัยอื่นปรับดีจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 2562 น่าเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 โดยเฉลี่ยจะเติบโตร้อยละ 4.3-4.5  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก