กรุงเทพฯ 11 ก.ย. –โฆษกรัฐบาลเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนก กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาในกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีกำชับหน่วยงานสาธารณสุขเฝ้าระวังการแพร่ระบาด สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคอย่างถูกต้อง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสื่อเสนอข่าวเกี่ยวกับไวรัสซิการะบาดในกรุงเทพฯ และมีผู้ติดเชื้อหลายรายกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยพบมากที่สุดที่เขตสาทร ว่า รัฐบาลขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะไวรัสซิกาไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายถึงชีวิต ขณะนี้พบผู้ป่วย 20 รายเท่านั้น ผู้ป่วยทุกรายอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด แม้บางรายจะเดินทางกลับไปต่างจังหวัดแล้ว
“ทางสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้ประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ผู้ป่วยอาศัยอยู่ให้ช่วยติดตามอาการ และแนะนำให้พักผ่อนอยู่กับบ้านในช่วงที่ป่วย ส่วนหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ 1 ราย และปัจจุบันคลอดแล้ว พบว่าทารกมีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่พบความผิดปกติ แต่ต้องติดตามผลการตรวจเลือดอีกระยะหนึ่ง” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับไปกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานสาธารณสุขระดับท้องถิ่น ให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค และเร่งรณรงค์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของไวรัสซิกา และการป้องกันโรคที่ถูกต้องแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง รวมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ระมัดระวังการนำเสนอข่าวที่อาจสร้างความแตกตื่นในสังคมด้วย
“ในพื้นที่กทม. เมื่อพบผู้ป่วย เจ้าหน้าที่จะกำหนดพื้นที่เป้าหมายรัศมี 100 เมตรจากบ้านหรือที่ทำงานของผู้ป่วย เพื่อเร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำภายใน 5 วัน และควบคุมโรคให้ได้ภายใน 14 วัน รวมทั้งออกกำจัดยุงทั้งในบ้านและนอกบ้านตั้งแต่วันแรกที่พบ และทำซ้ำทุก ๆ 7 วัน ควบคู่กับการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมในละแวกใกล้เคียง จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่พบการระบาดของโรคแล้ว” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า โรคติดเชื้อไวรัสซิกามียุงเป็นพาหะนำโรค ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ผื่นแดง เยื่อบุตาอักเสบ ปวดศีรษะ กล้ามเนื้อและข้อ ซึ่งโดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะไม่รุนแรง และหายเองได้ภายใน 2-7 วัน แต่การติดเชื้อนี้อาจส่งผลต่อหญิงตั้งครรภ์ เพราะจะทำให้ทารกมีอาการสมองอักเสบ และกระโหลกศีรษะมีขนาดเล็กผิดปกติ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนเริ่มมีอาการดังกล่าว หรือเจ็บป่วยรุนแรงต่อเนื่อง ขอให้รีบไปพบแพทย์ทันที.-สำนักข่าวไทย