กทม. 1 พ.ย.-ว่าด้วยเรื่องกัญชา รักษาโรค หลังสารสกัดและน้ำมันกัญชา กำลังจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 มาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งที่ผ่านมา มีการศึกษาทดลองใช้ กัญชา รักษาหลายอาการโรค
สารสกัดและน้ำมันกัญชา กำลังจะถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 ให้มาอยู่ในบัญชียาเสพติดประเภท 2 เช่นเดียวกับมอร์ฟีน เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณานำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เตรียมเสนอ รมว.สาธารณสุข ลงนามในประกาศกระทรวง เพื่อนำกัญชามาใช้รักษาโรค ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้
เว็บไซต์ haamor.com กล่าวถึงกัญชา ว่า
กัญชา (Cannabis หรือ Marijuana หรือ Marihuana) เป็นพืชจำพวกไม้ดอก มีแหล่งกำเนิด ในแถบทวีปเอเชียกลางและเอเชียใต้ อาจจำแนกพืชสกุลกัญชาออกเป็น 3 ชนิดคือ Cannabis sativa, Cannabis indica และ Cannabis ruderalis มนุษย์ใช้กัญชามาเป็นเวลานานทั้งในด้านที่นำมาเป็นยารักษาโรคและเสพเป็นสารเสพติด ส่วนของต้นกัญชาที่มักนำมาใช้คือ ก้าน ใบ ดอก รวมถึงเมล็ดและน้ำมันจากเมล็ด สารสำคัญในกัญชาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท/สมองคือ Tetrahy drocannabinol หรือจะย่อว่า THC ซึ่งมีอยู่หลายโครงสร้าง
จากการศึกษาการกระจายตัวของสาร THC ที่สกัดได้จากต้นกัญชาพบว่าการเสพกัญชาโดย การสูดดมควัน สาร THC จะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายประมาณ 10-35% หากเสพโดยการกินและกลืน ลงในระบบทางเดินอาหาร การดูดซึมจะลดเหลือประมาณ 6-20% ทั้งนี้เมื่อสาร THC เข้าสู่กระแสเลือดจะเข้ารวมตัวกับพลาสมาโปรตีนประมาณ 97-99% ก่อนที่จะถูกส่งไปเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีที่ตับ ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 1.6-59 ชั่วโมงกำจัดปริมาณสาร THC ในกระแสเลือด 50% โดยผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะและอุจจาระ ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับวิธีการเสพกัญชา
เคยมีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ได้นำสาร THC มาศึกษาทดลองทางคลินิก โดยใช้รักษาหลายอาการโรคเช่น ลดอาการหดเกร็งและชักกระตุกของกล้ามเนื้อ ลดอาการปวด อาการของโรคทางกระเพาะปัสสาวะ รักษาอาการโรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์ และโรคลมชัก ซึ่งผลการตอบสนองของการรักษาเป็นไปในทิศทางที่ดี
อดีตที่ผ่านมา กัญชาถูกนำมาผสมกับอาหารด้วยมีฤทธิ์กระตุ้นให้อยากอาหารเพิ่มขึ้น ทางการแพทย์จึงเลือกใช้สาร THC ที่มีสูตรโครงสร้างเคมีที่ชื่อว่า Dronabinol มาประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยโรคเอดส์และผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ซึ่งพบว่า Dronabinol จะทำให้ลดอาการคลื่นไส้ของผู้ป่วยกลุ่มนี้และทำให้ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ดีขึ้น
ยังมีการนำสาร THC ไปใช้ลดความดันของลูกตากับผู้ป่วยด้วยโรคต้อหิน และใช้ลดอาการปวดจากปลอกประสาทอักเสบอีกด้วย แต่คงต้องรอบทสรุปทางคลีนิกในอนาคตอันใกล้นี้
การเสพกัญชาเป็นเวลานานๆ จะนำมาซึ่งสภาวะไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง และก่อให้เกิดความผิดปกติของหัวใจ โดยทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว มีความผิดปกติทางสมองจนก่อให้เกิดอาการทางจิตประสาทตามมา ยิ่งเสพเป็นปริมาณมาก อาการก็จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาการที่แสดงให้เห็นถึงความทรมานจากการเสพกัญชานั้นมีมากมาย เช่น วิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ปวดท้องมาก หรืออาจมีอาการแพ้เช่น ผื่นคัน ตัวบวม อึดอัด หายใจไม่ออก หายใจลำบาก เป็นต้น
► กัญชา
ด้านเว็บไซต์ honestdocs.co กล่าวว่า
น้ำมัน Cannabidiol (CBD) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากพืชในตระกูลกัญชา และเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งพบในมารีฮวนน่าและต้นเฮมพ์ตามธรรมชาติ ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นสุขเหมือนในกัญชา ซึ่งเกิดจากสารอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า THC มีบางคนใช้น้ำมัน CBD ในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง น้ำมันนี้อาจจะช่วยลดอาการปวด การอักเสบและความไม่สบายตัวที่เกิดจากหลายๆ โรคได้
งานวิจัยเกี่ยวกับการใช้น้ำมัน CBD และการจัดการกับความเจ็บปวดนั้นได้ผลเป็นที่น่าสนใจ และอาจจะเป็นวิธีการรักษาทางเลือกให้กับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรังและต้องใช้ยาที่มีอันตรายมากกว่าและทำให้ติดเช่นยาในกลุ่ม opioid แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ที่จะได้รับ
ผลิตภัณฑ์จาก CBD นี้ยังไม่ได้ผ่านการรับรองขององค์การอาหารและยาให้ใช้ในการรักษาโรคใดๆ และไม่ได้มีการควบคุมเรื่องของความบริสุทธิ์และขนาดที่ใช้เหมือนกับยาตัวอื่น
การใช้น้ำมัน CBD เพื่อบรรเทาอาการปวด
นักวิจัยเชื่อว่า CBD นั้นทำปฏิกิริยาต่อตัวรับในสมองและระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้มีฤทธิ์ลดการอักเสบและลดอาการปวดซึ่งช่วยในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง
งานวิจัยหนึ่งได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับความสามารถของน้ำมัน CBD ในการบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง และสรุปว่า CBD นั้นสามารถบรรเทาอาการปวดทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ได้ทำให้เกิดผลข้างเคียง และพบว่าน่าจะสามารถรักษาอาการนอนไม่หลับที่เกิดจากอาการปวดเรื้อรังอีกด้วย พร้อมกับเสนอว่าอาจจะสามารถใช้รักษาผู้ที่เป็นโรค multiple sclerosis ได้
การใช้น้ำมัน CBD กับการบรรเทาอาการปวดจากโรคข้ออักเสบ
งานวิจัยหนึ่งได้ศึกษาการใช้น้ำมัน CBD ในหนูที่เป็นโรคข้ออักเสบ และพบว่าสามารถช่วยลดการอักเสบและอาการปวดโดยรวมได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง ฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาอาการปวดนี้เป็นผลที่น่าพึงพอใจและอาจจะสามารถนำมาใช้ในมนุษย์ได้แต่ยังต้องมีการศึกษาในมนุษย์เพิ่มเติม
น้ำมัน CBD กับการรักษาโรคมะเร็ง
ผู้ป่วยโรคมะเร็งบางคนมีการใช้น้ำมัน CBD งานวิจัยในหนูพบว่าสามารถช่วยลดเนื้องอกที่เป็นมะเร็งได้ แต่งานวิจัยส่วนใหญ่ในมนุษย์นั้นจะเน้นที่การบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากโรคมะเร็งและการรักษาโรคมะเร็ง และมีการระบุว่า CBD นั้นอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากการใช้ยาเคมีบำบัด
งานวิจัยหนึ่งได้ทำการทดสอบสารสกัดจากน้ำมัน CBD ด้วยการสเปรย์เข้าในปาก ร่วมกับการใช้ยากลุ่ม opioid และพบว่าน้ำมัน CBD นั้นสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ดีขึ้น แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
ผลข้างเคียง น้ำมัน CBD นั้นไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงใดเป็นพิเศษในผู้ชาย แต่ก็อาจจะพบผลข้างเคียงได้ ตัวอย่างเช่น คลื่นไส้ มีปัญหาด้านการนอนหลับ กระสับกระส่าย อาการถอนนั้นพบได้หลังจากที่หยุดใช้ และพบได้น้อยยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับสารที่ทำให้ติดเช่น opioid อาการถอนส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับการกลับมามีอาการปวดหรือวิตกกังวลเหมือนในตอนแรก ไม่แนะนำให้ใช้น้ำมันนี้ในเด็กเนื่องจากอาจจะมีผลข้างเคียงต่อพัฒนาการของสมองได้
งานวิจัยในอนาคต
โดยสรุปแล้ว นักวิจัยยังไม่มีข้อสรุปในการสนับสนุนการใช้น้ำมัน CBD ในการรักษาอาการปวด แต่ก็มีแนวโน้มที่น่าสนใจ ผลิตภัณฑ์จาก CBD นั้นอาจจะช่วยบรรเทาอาการในผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรังได้โดยที่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการติดหรือเป็นพิษ CBD ในรูปแบบน้ำมันนั้นอาจจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่ารูปแบบอื่นๆ แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์
ข้อมูลจาก http://haamor.com / www.honestdocs.co